นิวเดลี 27 พ.ค. – อินเดียยกเลิกข้อกำหนดที่ให้วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของบริษัทต่างชาติ
ที่ได้รับการยอมรับกันทั่วไปต้องทำการทดลองวัคซีนในอินเดียก่อน เพื่อลัดขั้นตอนสำหรับการนำเข้าวัคซีนมาใช้ในประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3
รัฐบาลอินเดียกล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า รัฐบาลได้ปรับแก้ไขระเบียบเพื่อยกเว้นข้อกำหนดที่ให้วัคซีนต่างชาติต้องผ่านการทดลองภายในประเทศก่อน โดยการยกเว้นนี้ครอบคลุมวัคซีนของต่างประเทศทั้งหมดที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง เพื่อเปิดทางให้นำเข้าวัคซีนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ขณะนี้ ยังไม่มีผู้ผลิตวัคซีนรายใดส่งเอกสารคำขอให้หน่วยงานกำกับดูแลการใช้ยาของอินเดียได้พิจารณาเลย รัฐบาลอินเดียยังกล่าวเชิญชวนให้ผู้ผลิตวัคซีนต่างชาติเข้ามาผลิตวัคซีนในอินเดีย เพื่อชาวอินเดียเองและเพื่อประเทศอื่น ๆ ในโลกด้วย ขณะนี้ ขาวอินเดียฉีดวัคซีนไปเพียงร้อยละ 3 ของประชากร 1,300 ล้านคน ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 98 ยังเคลือบแคลงใจในวัคซีน
อินเดียกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง ในวันนี้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 211,298 ราย ยอดสะสมอยู่ที่ 27.37 ล้านราย และผู้เสียชีวิตรวม 315,235 ราย อินเดียฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วด้วยวัคซีนของแอสตราเซเนกา ที่ผลิตขึ้นโดยสถาบันเซรุ่ม ของอินเดีย และวัคซีนโควาซิน ของ ภารัต ไบโอเทค ของอินเดีย และกำลังเริ่มใช้วัคซีนสปุตนิกวี ของรัสเซีย แต่ขณะนี้ปริมาณวัคซีนขาดแคลนเป็นจำนวนมาก ไม่พอสำหรับอินเดียซึงมีประชากรมาเป็นอันดับ 2 ของโลก รัฐบาลอินเดียกล่าวว่า ได้เจรจากับบริษัทไฟเซอร์ เพื่อนำเข้าวัคซีนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และยังเจรจากับบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน รวมทั้งโมเดอร์นาด้วย เมื่อเดือนที่แล้ว อินเดียให้คำมั่นว่าจะลดขั้นตอนการอนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 ของต่างประเทศ แต่ประเด็นข้อกำหนดเรื่องการทดลองวัคซีนในอินเดียก่อนการอนุมัติทำให้การเจรจานำเข้าวัคซีนจากไฟเซอร์ไม่คืบหน้า.-สำนักข่าวไทย