fbpx
moment Trump talks about Haitian migrants eat dog

สปริงฟิลด์วุ่นหนัก หลัง “ทรัมป์” อ้างเรื่องผู้อพยพกินหมาแมว

สปริงฟิลด์ 16 ก.ย.- เมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโฮของสหรัฐตกอยู่ในความวุ่นวาย หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ อ้างโดยไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ผู้อพยพชาวเฮติในเมืองนี้ขโมยสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวของชาวเมืองไปรับประทาน ทรัมป์อ้างเรื่องนี้ระหว่างโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตกับนางคอมมาลา แฮร์ริสครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อค่ำวันที่ 10 กันยายนตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นายเจ ดี แวนซ์ ผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของทรัมป์ และเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐโอไฮโอก็อ้างเช่นเดียวกันในการตระเวนให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์หลายแห่งเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ นายร็อบ รู นายกเทศมนตรีสปริงฟิลด์กล่าวอย่างไม่พอใจว่า นักการเมืองระดับชาติที่ได้รับความสนใจระดับประเทศจะต้องตระหนักว่า คำพูดที่พูดออกมาส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อชุมชนระดับเมือง ช่วงหลายวันมานี้มีการข่มขู่วางระเบิดหลายครั้ง เมืองสปริงฟิลด์ต้องตกอยู่ท่ามกลางลมหมุนทางการเมือง และค่อนข้างยากจะควบคุมได้ อย่างไรก็ดี นายกเทศมนตรีวัย 54 ปี ไม่ตอบคำถามว่าจะลงคะแนนให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ เพียงแต่กล่าวว่า สปริงฟิลด์ถูกให้ร้ายอย่างไม่สมควร (อ่านเพิ่มเติม https://tna.mcot.net/world-1417999) ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยและวิทยาหลายแห่งในสปริงฟิลด์ได้ยกเลิกกิจกรรมทั้งหมด และเปลี่ยนไปใช้การเรียนการสอนออนไลน์เมื่อวานนี้เนื่องจากถูกข่มขู่ใช้ความรุนแรง เช่นเดียวกับหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานที่อีกหลายแห่งที่ถูกข่มขู่ก่อนหน้านี้ หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับผู้อพยพชาวเฮติ 15,000 คนในเมืองสปริงฟิลด์ ซึ่งมีประชากรทั้งเมืองไม่ถึง 60,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump posts he won't do another presidential debate

“ทรัมป์” ประกาศไม่ดีเบตกับ “แฮร์ริส” อีก

นิวยอร์ก 13 ก.ย.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า จะไม่เข้าร่วมการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบต กับนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอีก อดีตประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในบัญชีทรูธโซเชียล (Truth Social) ของเขาว่า เมื่อนักชกล่าเงินรางวัลพ่ายแพ้ คำแรกที่ออกจากปาก คือ ต้องการชกล้างตา ผลสำรวจชี้ชัดว่า เขาชนะการดีเบตกับนางแฮร์ริสที่เป็นผู้สมัครฝ่ายซ้ายจัดของพรรคเดโมแครตในการดีเบตเมื่อคืนวันอังคาร ส่วนเธอขอให้มีการดีเบตครั้งที่ 2 ทันที เธอและโจ ไบเดน ที่หลอกลวงทำลายประเทศ ปล่อยให้อาชญากรและผู้มีปัญหาทางจิตหลายล้านคนหลั่งไหลเข้าสหรัฐโดยไร้การตรวจสอบ และปล่อยให้เงินเฟ้อทำให้ชนชั้นกลางล้มละลาย เขาได้พูดเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดไปแล้วในการดีเบตครั้งแรกกับไบเดน และครั้งที่ 2 กับแฮร์ริส จากนั้นทรัมป์ได้โพสต์เป็นอักษรตัวใหญ่ทั้งหมดว่า คอมมาลาควรสนใจเรื่องที่ควรทำแต่ไม่ได้ทำในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และจะไม่มีการดีเบตครั้งที่ 3 การประกาศดังกล่าวเท่ากับว่า ทรัมป์และแฮร์ริสได้เผชิญหน้ากันครั้งแรกและครั้งเดียวในการดีเบตที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อค่ำวันที่ 10 กันยายนตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 11 กันยายนตามเวลาไทย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายน ทั้งนี้ทันทีที่เสร็จสิ้นการดีเบต ทีมงานหาเสียงของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้ท้าทายให้ทรัมป์ขึ้นเวทีดีเบตอีกครั้ง ครั้งนั้นทรัมป์ตอบเพียงว่า อาจจะดีเบตอีกครั้งหากจัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ที่มีความเป็นธรรม ทั้งนี้ทรัมป์และผู้สนับสนุนในพรรครีพับลิกันกล่าวหานายเดวิด เมียร์และลินซีย์ เดวิส […]

ย้อนอดีตดีเบตที่พลิกเกมเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

วอชิงตัน 11 ก.ย.- สื่อสหรัฐยกตัวอย่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตที่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในอดีตที่ผ่านมา หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนางคอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตเสร็จสิ้นการดีเบตครั้งแรกและครั้งเดียว เสียงอเมริกาหรือวีโอเอ (VOA) ที่เป็นสื่อของรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า การโต้วาทีในปี 2503 ระหว่างนายจอห์น เอฟ เคนเนดี จากพรรคเดโมแครตและรองประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จากพรรครีพับลิกันได้สร้างจุดเริ่มต้นให้โทรทัศน์มีอิทธิพลต่อการเมืองสหรัฐ เมื่อท่าทีที่สงบและมั่นใจของเคนเนดีทำให้เขาดูมีภาษีมากกว่านิกสัน การโต้วาทีปี 2523 ระหว่างประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ จากพรรคเดโมแครตกับโรนัลด์ เรแกน จากพรรครีพับลิกัน เรแกนได้ใช้ไหวพริบตอบโต้คาร์เตอร์ที่วิพากษ์วิจารณ์เขา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพที่มีทักษะที่ดีในด้านการสื่อสาร จากที่เขามีประสบการณ์เป็นนักแสดงมากก่อน ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรแกนชนะเลือกตั้งไปอย่างถล่มทลาย การโต้วาทีปี 2535 ระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 3 คน คือ บิล คลินตัน ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอจากพรรคเดโมแครต, ประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุชจากพรรครีพับลิกัน และนายรอสส์ เพอโรต์ นักธุรกิจที่เป็นผู้สมัครอิสระ คลินตันตอบคำถามอย่างเข้าอกเข้าใจ ขณะที่ประธานาธิบดีบุชเอาแต่จ้องมองนาฬิกา ทำให้คลินตันได้ภาพลักษณ์ความเป็นคนที่เข้าถึงได้ ล่าสุดในการดีเบตเมื่อเดือนมิถุนายนระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตกับทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน […]

Harris and Trump in fiery debate

จับผิดเรื่องที่ “ทรัมป์” อ้างในดีเบตกับ “แฮร์ริส”

วอชิงตัน 11 ก.ย.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวอ้างผิด ๆ หลายเรื่องระหว่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตกับนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต รอยเตอร์ระบุว่า ทรัมป์กล่าวอ้างผิด ๆ หรือใช้ถ้อยคำสุดโต่งหลายเรื่อง จนพิธีกรของสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ (ABC News) ที่จัดการดีเบตเมื่อค่ำวันที่ 10 กันยายนตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 11 กันยายนตามเวลาไทย ต้องแก้ไขหลายครั้ง เรื่องที่ทรัมป์นำมาขยายความและน่าจะเป็นกระแสแพร่ไปในวงกว้างมากที่สุด คือ เรื่องที่กล่าวอ้างว่าผู้อพยพชาวเฮติจำนวนมากเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ ขโมยสัตว์เลี้ยงที่เป็นสุนัขและแมวของชาวบ้านมารับประทาน หรือจับสัตว์ในอุทยานมาเป็นอาหาร และเมื่อผู้ดำเนินรายการแย้งว่า ไม่มีรายงานข่าวที่เชื่อถือได้ในเรื่องนี้ ทรัมป์โต้กลับว่า เขาเห็นจากข่าวโทรทัศน์ที่สัมภาษณ์ผู้ที่ถูกขโมยสุนัขไปรับประทาน นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวอ้างว่า พรรคเดโมแครตสนับสนุนการทำแท้ง แฮร์ริสเกลียดชังอิสราเอล อัตราการก่ออาชญกรรมลดลงทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐที่สูงแตะเพดาน ทั้งที่ข้อมูลของสำนักสอบสวนกลางของสหรัฐหรือเอฟบีไอ (FBI) เมื่อเดือนมีนาคมระบุว่า อัตราการฆาตกรรมทั่วสหรัฐลดลงมากกว่าร้อยละ 13 ในปี 2566 โดยลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนแฮร์ริสพูดเกินจริงเรื่องอ้างว่า ทรัมป์พูดในการหาเสียงเดือนมีนาคมว่า จะเกิดการนองเลือดหากเขาไม่ได้รับเลือกตั้ง เพราะทีมหาเสียงของทรัมป์แย้งในภายหลังว่า ทรัมป์พูดเรื่องนี้เพื่อหมายถึงชะตากรรมของอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐในรัฐบาลโจ ไบเดน.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump and Harris in first US Presidential debate

“แฮร์ริส” ยังไม่สามารถซื้อใจชาวอเมริกันที่ยังลังเล

ผลสำรวจชี้ว่า นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ยังไม่สามารถซื้อใจ หรือโน้มน้าวชาวอเมริกันที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังเสร็จสิ้นการดีเบตกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

Harris and Trump in fiery debate

ดีเบตทรัมป์-แฮร์ริส แสดงวิสัยทัศน์คนละด้าน

ฟิลาเดลเฟีย 11 ก.ย.- คู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่งเสร็จสิ้นการโต้วาทีประชันวิสัยทัศน์หรือดีเบต ทั้งสองต่างแสดงมุมมองสองด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งโจมตีว่าคู่แข่งทำให้สหรัฐกำลังตกต่ำ ส่วนนางคอมมาลา แฮร์ริส ต้องการก้าวข้ามทรัมป์แล้วมุ่งสู่อนาคต  การดีเบตของผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นวาระสำคัญทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งที่จัดกันมาหลายสิบปี   ครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่นายทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่หวังครองตำแหน่งอีกสมัย ประชันกับนาง แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่เป็นสตรี มีเชื้อสายแอฟริกันและเอเชียใต้ ซึ่งได้กลายมาเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตแทนนาย โจ ไบเดน ที่เคยขึ้นเวทีดีเบตกับนายทรัมป์มาแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายน แต่แสดงผลงานย่ำแย่จนต้องถอนตัวไป กฎเกณฑ์ของการดีเบตครั้งนี้ยังเหมือนกับครั้งที่แล้วคือ กำหนดให้เปิดไมโครโฟนเมื่อถึงเวลาของแต่ละคนเพื่อป้องกันการพูดแทรกขัดจังหวะ ห้องที่จัดดีเบตนั้นให้มีเพียงคู่ต่อสู้กับพิธีกรข่าว 2 คนของสำนักข่าวเอบีซีผู้จัดดีเบตเท่านั้น โดยไม่มีผู้ชมเลย   ในการประชันกันบนเวที พิธีกรผู้ดำเนินรายการได้ตั้งคำถามสลับให้กับแต่ละคนตอบ และจัดเวลาให้ได้ตอบโต้กันด้วย โดยไล่เรียงไปทีประเด็นที่เป็นตัวแปรในการเลือกตั้ง เช่น เศรษฐกิจ ปัญหาผู้อพยพ สิทธิการทำแท้ง การเมืองระหว่างประเทศ สงครามยูเครนและตะวันออกกลาง นาย ทรัมป์ ได้โจมตีผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเรื่องเงินเฟ้อรุนแรง เศรษฐกิจฝืดเคือง การเสียตำแหน่งงาน รวมถึงความผิดพลาดในการควบคุมผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจนสร้างปัญหาและแย่งงานในประเทศ ส่วนนางแฮร์ริส ได้เน้นย้ำหลายครั้งว่า เธอไม่ต้องการการเมืองที่สร้างความเกลียดชัง ชี้นิ้ว แบ่งขั้วแบ่งข้าง เพราะเธอมีแผนงานเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ให้โอกาสแก่ทุกคน มุ่งให้คนทั่วไปลืมตาอ้าปากด้วยการแบ่งเบาภาระและส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม เธอยังได้พูดหลายครั้งว่า อเมริกาควรก้าวข้ามทรัมป์ไปได้แล้ว […]

Drone show lights up support for Harris on evening of presidential debate

โดรนแปรอักษรเชียร์ “แฮร์ริส”

ฟิลาเดลเฟีย 11 ก.ย.- ทีมงานหาเสียงของนางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน แปรอักษรเชียร์เธอก่อนขึ้นโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ก่อนที่การดีเบตระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน กับรองประธานาธิบดี แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตเริ่มขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อคืนวันที่ 10 กันยายนตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 11 กันยายนตามเวลาไทย  ทางทีมงานหาเสียงของนางแฮร์ริสได้จัดการแสดงโดรนแปรอักษรสนับสนุนแฮร์ริสเหนือพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟียในคืนเดียวกัน การแปรอักษรภาพแรกเป็นรูปผมของนายทรัมป์ถูกลมพัดจนผมกระเซิง ตามด้วยข้อความ  “We’re not going back”, “When we fight WE WIN”  และ “When we vote WE WIN” รวมถึงภาพการหย่อนบัตรลงคะแนนลงในหีบ ภาพคำว่า VOTE อยู่ในวงกลมที่เป็นสีธงชาติ  ต่อด้วยภาพธงชาติสหรัฐที่กำลังโบกสะบัด คำว่า “MADAM PRESIDENT” และปิดท้ายด้วยชื่อของนางแฮร์ริส และนายทิม วอลซ์ คู่ชิงรองประธานาธิบดี  ผู้ที่มาชมพากันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Trump and Harris in first debate

โลกโซเชียลเดือดช่วง “ทรัมป์-แฮร์ริส” ดีเบต

นิวยอร์ก 11 ก.ย.- ในขณะที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนชมการถ่ายทอดสดการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบต ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปีนี้ คนในโลกโซเชียลก็นำสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการดีเบตมาต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เริ่มสงครามออนไลน์ทันทีที่การดีเบตเปิดฉากขึ้นในเวลา 21.00 น.วันที่ 10 กันยายนตามเขตเวลาตะวันออก (ET) ซึ่งช่วงเวลานี้ช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตจับภาพที่รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เดินไปจับมือกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันพร้อมกับแนะนำตัว มาทำเป็นโพสต์ที่สร้างกระแสส่งต่ออย่างกว้างขวาง เช่น โพสต์ว่า “แฮร์ริสพูดว่า คุณควรจับมือฉันสิ บ้าจริง!” ผู้สนับสนุนบางคนโพสต์ภาพแฮร์ริสทำหน้าขำขัน หรือบางครั้งสงสัย ในขณะที่ทรัมป์กำลังพูดถึงเนื้อหาผิด ๆ ที่เคยอ้างมาแล้วเรื่องผู้อพยพชาวเฮติในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ รับประทานเนื้อสุนัขและแมว ด้านกลุ่มสนับสนุนทรัมป์โพสต์เรื่องที่ทรัมป์กล่าวว่า แผนเศรษฐกิจของแฮร์ริสเป็นเรื่องง่าย ๆ และลอกเลียนมาจากนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นนโยบายสั้น ๆ ที่คล้ายกับหนังสือชุดชื่อ Run, Spot, run ที่สหรัฐใช้สอนเด็กเล็กหัดอ่านหนังสือเมื่อหลายทศวรรษก่อน.-814.-สำนักข่าวไทย

“ทรัมป์-แฮร์ริส” เตรียมดีเบตครั้งแรก

นายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส ซึ่งเป็น 2 คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก ในการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ค่ำวันที่ 10 กันยายนนี้ ตามเวลาสหรัฐ

“ทรัมป์” หาเสียงชูเรื่องทำเด็กหลอดแก้วฟรี

นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ หาเสียงว่าเขาจะให้รัฐบาลหรือบริษัทประกันจ่ายค่าทำเด็กหลอดแก้ว หากตัวเขาชนะเลือกตั้ง เป็นความเคลื่อนไหวหวังดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นสตรีและผู้ที่อยู่ชานเมือง

“แฮร์ริส” เปิดนโยบายต่างประเทศคนละขั้วกับ “ทรัมป์”

นางคอมมาลา แฮร์ริส เปิดเผยนโยบายการต่างประเทศ หากได้เป็นประธานาธิบดี เป็นนโยบายที่มีความแตกต่างคนละขั้วกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

แฮร์ริสตอบรับเป็นตัวแทนเดโมแครตชิง ปธน.

ชิคาโก 23 ส.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส ได้ตอบรับการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการแล้วในการประชุมใหญ่ของพรรควันสุดท้ายที่เธอได้กล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ฉายภาพอนาคตและนโยบายสำคัญๆ รวมถึงโจมตีนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน นางแฮร์ริสได้กลายเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เมื่อนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันถอนตัวไปเนื่องจากปัญหาเรื่องอายุเมื่อ 5 สัปดาห์ก่อน เธอได้แรงสนับสนุนจากสมาชิกพรรค นักการเมือง และคนดังในหลายวงการที่ขึ้นปราศัยตั้งแต่การประชุมเริ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์   สำหรับสุนทรพจน์ของเธอซี่งเป็นกำหนดการสุดท้ายของการประชุมนั้น นางแฮร์ริส ได้กล่าวถึงเรื่องราวชีวิตของครอบครัวผู้อพยพของเธอ การทำงานด้านกฎหมาย และรวมนโยบายหลัก ๆ ด้านเศรษฐกิจต่างประเทศ สังคม ความปลอดภัย และสร้างความสามัคคีในชาติในเวลาที่เกิดรอยร้าวทางการเมืองอย่างหนัก โดยได้พูดถึงนโยบายอย่างกว้าง ๆ ไม่ได้เจาะจงในรายละเอียด นางแฮร์ริสได้กล่าวถึงนายทรัมป์ว่า เป็นบุคคลอันตรายที่หากได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยจะก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างหนัก เห็นได้จากเมื่อแพ้การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เขาพยายามล้มผลการเลือกตั้ง ยุยงให้ก่อม็อบติดอาวุธที่รัฐสภา อีกทั้งยังสร้างความแตกแยกในชาติและก่ออาชญากรรมมากมาย ตั้งแต่ทุจริตไปจนถึงการล่วงละเมิดทางเพศ หากได้อำนาจอีกเขาตั้งใจจะปล่อยนักโทษ จับกุมนักข่าวและนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม แม้กระทั่งส่งทหารมาปราบปรามประชาชน หลังจากนี้นางแฮร์ริสและนายทรัมป์จะตระเวนหาเสียงกันอย่างหนัก และจะโต้วาทีประชันวิสัยทัศน์กันในวันที่ 10 กันยายน และทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจากันว่าอาจจัดการโต้วาทีเพิ่มอีก เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิ์ได้ใช้ในการตัดสินใจสำหรับการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน.-812(814).-สำนักข่าวไทย

1 2 3
...