ผู้เสียหายร้องเอาผิดบริษัทพลังงานสะอาดหลอกลวงให้ลงทุน

บช.ก. 31 ต.ค. – ตัวแทนสภาทนายความพาผู้เสียหายกว่า 20 คน ร้องตำรวจ ปอศ.เอาผิดบริษัทพลังงานสะอาดหลอกลวงให้ลงทุน


นายกิตติคุณ เเสงหิรัญ ตัวแทนจากสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมนางอภันธ์ตรี อายุ 55 ปี และผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อเเจ้งเอาผิดบริษัทผลิตพลังงานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า พลังงานสะอาดแห่งหนึ่ง หลอกลวงให้ผู้ลงทุนมีสมาชิกผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 70,000 คน

นางอภันธ์ตรี ตัวเเทนผู้เสียหาย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2562 ผู้เสียหายส่วยใหญ่ได้รับลิงก์จากบริษัทดังกล่าวเกี่ยวกับการนำเงินเกษียณอายุไปลงทุนต่อยอด จึงได้มีการชักชวนร่วมลงทุนเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีการโฆษณาว่าเครื่องดังกล่าวจะสามารถขายได้ทั้งในและต่างประเทศ หากซื้อหุ้นราคาละ 100 บาท จะได้เงินปันผลใน 50 สัปดาห์ และหลังจากนั้นจะได้เงินปันผลตลอดชีวิตจึงมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าร่วมลงทุน ซึ่งบริษัทดังกล่าวอ้างว่าเงินปันผลจะถูกหัก 10% เข้าสรรพากรและมีการปันผลกับผู้เเนะนำ


โดยกลุ่มผู้ลงทุนกลุ่มแรกได้เริ่มลงทุนเมื่อเดือน ก.ย.2562 กลุ่มที่ 2 ธ.ค.2562-เม.ย.2563 และกลุ่มที่ 3 เริ่มต้นเมื่อเดือน พ.ค.2563 และได้ปันผล 3% ใน 30 สัปดาห์ ทำให้ในช่วงระหว่างกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ผู้เสียหายมีการระดมซื้อหุ้นเป็นจำนวนมากโดยมีการโอนเงินเข้าธนาคารแห่งหนึ่ง สาขารามอินทรา ตั้งเเต่หลักเเสนถึงหลักล้านบาท ซึ่งช่วง พ.ค.63 โปรแกรมในการลงทุนได้มีการปิดลงเนื่องจากทางรัฐบาลได้มีการยึดทรัพย์ หลังจากกนั้นทางบริษัทได้ให้แอดมินติดต่อกลับผู้เสียหายเพื่อเกลี้ยกล่อมในกลุ่มไลน์ที่มีจำนวนสมาชิก 2,000 คน เพื่อไม่ให้เเจ้งความ โดยอ้างว่าถูกภาครัฐกลั่นแกล้งอายัดและปิดบัญชี และยังอ้างอีกว่าจะมีการซื้อหุ้นและเยียวยาคืนแต่ก็ไม่มีจริงจึงได้มีการเรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรมกับศาลชั้นต้นเมื่อช่วงเดือน มี.ค.2566 ซึ่งหลังจากนั้นมีการยื่นอุทธรณ์ 5-7 ครั้ง โดยศาลให้บริษัทดังกล่าวนำเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามาแสดง แต่ก็ไม่ได้มีการนำมาจึงยุติไปในช่วงเดือน พ.ค. ทั้งนี้ ตัวเองและผู้เสียหายในวันนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกเยียวยาในกลุ่มแรกจำนวน 299 คน จึงมาขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญา

อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายชุดหลังได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจใกล้บ้านแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าอายุความทางคดีนั้นเกิน 90 วันแล้ว จึงทำได้เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้นจึงได้มีการรวมตัวกันไปยื่นฟ้องที่ศาลแพ่งโดยศาลชั้นต้นได้มีการตีตกไป หลังจากนั้นก็ได้มีการยื่นอุทธรณ์ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ

ส่วนกรณีที่ทรัพย์สินที่ทาง ปปง.ได้อายัดไว้มูลค่า 400 ล้านบาท จะตกเป็นของแผ่นดินนั้นผู้เสียหายที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแรกที่ได้รับการเฉลี่ยเงินคืน จะสามารถร้องเรียนได้ในระยะเวลา 1 ปี หรือจนกว่าคดีจะสิ้นสุด จึงได้มีการทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดแต่ก็ยังมีการเรียกไปพูดคุยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อ วันนี้จึงต้องมาพึ่งตำรวจ บก.ปอศ. เพราะทราบว่ามีผู้เสียหายประมาณ 60 คน ที่ยังมีคดีค้างอยู่ที่ บก.ปอศ. เพื่อนำผู้เสียหายที่มาในวันนี้นั้นไปรวมกับ 60 คน ในการดำเนินคดีอาญา คดีนี้เชื่อว่ามีผู้เสียหายมากถึง 70,000 คน แต่หลายคนไม่กล้าออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมเพราะไม่รู้ช่องทางในการเข้าดำเนินการ


นายกิตติคุณ กล่าวว่า ในส่วนของคดีอาญา จะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ผิดข้อหาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายไปแจ้งความแล้ว 60 คน ซึ่งสภาทนายความได้ประสานอัยการกองเศรษฐกิจและทรัพยากร แต่ปรากฏว่าผ่านมา 3 ปี เปลี่ยนพนักงานอัยการจนครบวาระแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้า จนผู้เสียหายไปร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษและกระทรวงยุติธรรม รวมถึงเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมในวันนี้ด้วย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ก็ไม่นิ่งนอนใจและจะมีการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งผู้เสียหายที่เหลือที่ต้องการได้รับความเป็นธรรม จากกรณีดังกล่าวสามารถติดต่อมาทางสภาทนายความฯ ได้.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ช้างป่ายกโขลงประชิดหมู่บ้าน ไล่ระทึกทั้งคืน

ไล่ระทึกกันทั้งคืน ช้างป่ายกโขลงบุกประชิดหมู่บ้านตลิ่งชัน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ออกหากินผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน