ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีน RSV ของ Pfizer ทำให้คลอดก่อนกำหนด จริงหรือ?

11 ตุลาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับไวรัส RSV เผยแพร่ทาง Instagram ในสหรัฐอเมริกา ที่อ้างว่าวัคซีน RSV ของ Pfizer ไม่ปลอดภัยที่จะฉีดให้สตรีมีครรภ์ เนื่องจากการทดลองทางคลินิกพบว่า กลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับวัคซีนต้องคลอดก่อนกำหนดและทารกน้ำหนักตัวน้อยผิดปกติในจำนวนที่มากกว่ากลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับยาหลอกถึง 20%


บทสรุป :

  1. FDA ลงคะแนนเสียง 10-4 ในการรับรองประสิทธิผลด้านความปลอดภัยของวัคซีน Abrysvo สำหรับการฉีดให้สตรีมีครรภ์
  2. คณะกรรมการที่ไม่เห็นชอบ 4 เสียง กังวลถึงความเสี่ยงการคลอดก่อนกำหนด
  3. คณะกรรมการที่เห็นชอบ 10 เสียง มองว่าความเสี่ยงการคลอดก่อนกำหนดมีน้อย และวัคซีนมีประโยชน์ในการป้องกันเด็กป่วยหนักจากไวรัส RSV มากกว่า

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

รายงานการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ของวัคซีน Abrysvo ที่บริษัท Pfizer ส่งไปให้องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) พิจารณา พบความไม่สมดุลทางสถิติของคลอดก่อนกำหนดและทารกน้ำหนักตัวน้อยผิดปกติระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม


โดยพบว่า ในกลุ่มสตรีมีครรภ์ที่รับวัคซีน Abrysvo พบการคลอดก่อนกำหนด 5.7% ส่วนกลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับยาหลอกคลอดก่อนกำหนด 4.7%

ส่วนข้อมูลทารกน้ำหนักตัวน้อยผิดปกติ ก็พบว่ากลุ่มสตรีมีครรภ์ที่รับวัคซีน Abrysvo คลอดทารกน้ำหนักตัวน้อยผิดปกติ 5.1% ส่วนกลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับยาหลอกพบการคลอดทารกน้ำหนักตัวน้อยผิดปกติ 4.4%

แม้ข้อมูลดังกล่าว จะได้รับการยืนยันว่าไม่มีความแตกต่างที่สำคัญทางสถิติ แต่ความกังวลต่อความเสี่ยงการคลอดก่อนกำหนดของสตรีมีครรภ์ที่ได้รับวัคซีน Abrysvo ส่งผลให้คณะกรรมการที่ปรึกษาวัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เกี่ยวข้อง (VRBPAC) ของ FDA ลงคะแนนเสียง 10-4 ในการรับรองประสิทธิผลด้านความปลอดภัยของวัคซีน Abrysvo สำหรับการฉีดให้กับสตรีมีครรภ์ ก่อนจะอนุมัติการฉีดวัคซีน Abrysvo แก่สตรีในอายุครรภ์ 32-36 สัปดาห์ ซึ่งเป็นอายุครรภ์ที่นานกว่ากลุ่มตัวอย่างในการทดลองของ Pfizer ที่เริ่มฉีดในสตรีที่มีอายุครรภ์ 24 สัปดาห์เป็นต้นไป

เหตุผลของคณะกรรมการ VRBPAC ที่ออกความเห็นไม่สนับสนุนการฉีดวัคซีน RSV แก่สตรีมีครรภ์ เพราะมองว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง GSK เจ้าของวัคซีน Arexvy ที่ได้รับการอนุมัติให้ฉีดกับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เคยทดลองการฉีดวัคซีน RSV ให้กับสตรีมีครรภ์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส RSV แก่ทารกเช่นกัน แต่การทดลองต้องยุติลงในปี 2022 หลังพบว่าสตรีมีครรภ์ที่ได้รับวัคซีนคลอดก่อนกำหนดมากกว่าสตรีที่ได้รับยาหลอกเช่นกัน

ดร.พอล ออฟฟิต ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และวัคซีน หนึ่งในคณะกรรมการ VRBPAC ที่โหวตไม่สนับสนุนการฉีดวัคซีน RSV แก่สตรีมีครรภ์ ให้ความเห็นว่าข้อมูลด้านความปลอดภัยของ Pfizer ยังไม่เพียงพอที่จะเชื่อมั่นได้ว่าวัคซีน Abrysvo มีความปลอดภัยต่อสตรีมีครรภ์มากกว่าวัคซีน Arexvy ที่หยุดการทดลองเพราะปัญหาการคลอดก่อนกำหนด

การคลอดก่อนกำหนดจากวัคซีน RSV ไม่อยู่ขั้นที่เป็นอันตราย

ส่วนความเห็นของคณะกรรมการ VRBPAC ที่สนับสนุนการฉีดวัคซีน RSV แก่สตรีมีครรภ์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส RSV กับทารก ให้ความเห็นว่า เนื่องจากสถิติการคลอดก่อนกำหนดของกลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับวัคซีน RSV และได้รับยาหลอก ไม่มีความแตกต่างที่สำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ สถิติการคลอดก่อนกำหนดของกลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับวัคซีน RSV ที่ 5.7% ก็ยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับสถิติการคลอดก่อนกำหนดที่พบในธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นระหว่าง 4-16%

นอกจากนี้ การคลอดก่อนกำหนดในการทดลองวัคซีน Abrysvo ของบริษัท Pfizer ส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์อีกด้วย

โดยปกติอายุครรภ์ของมนุษย์จะอยู่ที่ 38-42 สัปดาห์ โดยพบว่าการคลอดก่อนกำหนดที่พบในการทดลองวัคซีน Abrysvo ประมาณ 90% เกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ 34-37 สัปดาห์ โดยพบทั้งในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนและกลุ่มยาหลอก

เท่ากับว่าการคลอดก่อนกำหนดจากการทดลองวัคซีน Abrysvo ส่วนใหญ่จะเป็นการคลอดก่อนกำหนดชนิด Late Preterm ซึ่งมีผลกระทบต่อทารกน้อยกว่าการคลอดก่อนกำหนดชนิด Extremely Preterm Birth ซึ่งเป็นการคลอดที่อายุครรภ์ต่ำกว่า 28 สัปดาห์

ซึ่งการทดลองวัคซีน Abrysvo พบทารกที่คลอดก่อนอายุครรภ์ครบ 28 สัปดาห์ 1 รายในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน และ 1 รายในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก

ขณะเดียวกัน ในการทดลองวัคซีน Arexvy ของบริษัท GSK ที่พบการคลอดก่อนกำหนดสูงกว่าในกลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับวัคซีน เมื่อมีการแยกกลุ่มตัวอย่างตามสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมแล้ว พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่อาศัยอยู่ในประเทศรายได้ต่ำ-ปานกลาง กลุ่มสตรีมีครรภ์ที่ได้รับวัคซีนมีอัตราการคลอดก่อนกำหนดสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกถึง 57% แต่กลุ่มตัวอย่างที่อาศัยอยู่ในประะเทศรายได้สูง กลุ่มที่ได้รับวัคซีนมีอัตราการคลอดก่อนกำหนดมากกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกเพียง 4% ซึ่งไม่มีความแตกต่างที่สำคัญทางสถิติ

หลังใช้งานจริงไม่พบว่าวัคซีน RSV เพิ่มความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 งานวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนล ซึ่งตีพิมพ์ทางวารสารการแพทย์ JAMA ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการคลอดก่อนกำหนดกับการฉีดวัคซีน Abrysvo หลังจากการใช้จริง

ทีมวิจัยได้สังเกตการณ์กลุ่มตัวอย่าง 2,973 ราย ที่คลอดบุตรในช่วงไวรัส RSV แพร่ระบาดระหว่างปี 2023 และ 2024 โดยกลุ่มตัวอย่างมีอายุระหว่าง 32.4-37.7 ปี โดยมี 1,026 (34.5%) ที่ได้รับวัคซีน Abrysvo ของบริษัท Pfizer

ผลการวิจัยเบื้องต้นพบว่า การฉีดวัคซีน RSV ให้กับสตรีมีครรภ์ไม่มีความสัมพันธ์ต่อการคลอดก่อนกำหนด หลังพบว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีนคลอดก่อนกำหนด 60 ราย (5.9%) ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนคลอดก่อนกำหนด 131 ราย (6.7%) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มีความแตกต่างที่สำคัญทางสถิติเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/06/scicheck-instagram-post-misleads-about-pfizers-rsv-maternal-vaccine/
https://www.factcheck.org/2023/03/scicheck-qa-on-rsv-vaccine-and-antibody-candidates-to-protect-infants/
https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/study-finds-pfizers-rsv-vaccine-not-tied-higher-risk-pre-term-births-2024-07-08/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]