สมุทรปราการ 30 เม.ย.-คลัสเตอร์ทองหล่ออีกแล้ว คราวนี้น้องชายทำงานย่านทองหล่อมาร่วมงานศพพ่อแล้วนำเชื้อมาแพร่ ส่งผลพี่ชายเสียชีวิตภายใน 3 วัน ขณะที่แม่มีอาการเหมือนติดเชื้อต้องนำส่งโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเฉพาะทาง มูลนิธิร่วมกตัญญู นำรถ และเครื่องมือ พร้อมสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือ PPE ก่อนเข้าไปนำศพชายไทย วัย 42 ปี หลังเสียชีวิตในบ้านของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยมังกรนาคดี หมู่ 8 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ โดยผู้เสียชีวิตรายนี้ นับเป็นศพที่ 2 ของบ้านหลังดังกล่าวในรอบไม่ถึง 1 สัปดาห์
นายสุทนธ์ วงส์ศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเทพารักษ์ เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือพ่ออายุ 88 ปี แม่อายุ 60 กว่าปี ผู้ตาย และน้องชาย โดยผู้ตายได้แยกออกไปทำงานที่อื่น ส่วนน้องชายไปทำงานอยู่แถวทองหล่อ กระทั่งเมื่อวันอังคารที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา พ่อของผู้เสียชีวิตได้เสียชีวิตไปก่อนจากโรคเส้นเลือดในสมองแตก ทางบ้านจึงจัดงานศพที่วัดหนามแดง โดยทั้งน้องชาย และผู้ตายที่แยกตัวไปทำงานที่อื่น ได้กลับมาร่วมงานศพของพ่อ และเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ระหว่างที่อยู่ในงานศพ ทางโรงพยาบาลเอกชนที่น้องชายผู้ตายไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไว้ โทรศัพท์มาแจ้งว่าน้องชายติดเชื้อ จึงถูกแยกตัวไปอยู่โรงพยาบาลสนามของสมุทรปราการ แต่ผู้เป็นแม่และผู้ตายยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพราะยังยุ่งอยู่กับงานศพของพ่อ ซึ่งเพิ่งฌาปนกิจไปวานนี้ (29 เม.ย.) และมาวันนี้พบว่าผู้ตายหมดลมหายใจคาบ้านของตัวเอง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมีโรคหืด หอบ เป็นโรคประจำตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บศพผู้ตาย ยังพบแม่ของผู้ตายที่อายุกว่า 60 ปี นอนป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านเพียงลำพังด้วย แต่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือด้วยวิธีปกติได้ เพราะบ้านหลังดังกล่าวเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 จึงต้องประสานเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมุทรปราการมาช่วยเหลือ ซึ่งล่าสุดได้นำแม่ส่งโรงพยาบาลแล้ว.-สำนักข่าวไทย