เวลลิงตัน 20 เม.ย. – นิวซีแลนด์เผยว่า พนักงานท่าอากาศยานนานาชาติออกแลนด์มีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จะทำให้นิวซีแลนด์สั่งระงับการเดินทางโดยไม่ต้องกักตัวกับออสเตรเลียหรือไม่
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์กล่าวว่า พนักงานท่าอากาศยานที่ติดเชื้อโควิดได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ก่อนแล้ว และปฏิบัติหน้าที่ทำความสะอาดเครื่องบินที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้ พนักงานคนดังกล่าวมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบในวันที่ 12 เมษายน แต่กลับมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกเมื่อวานนี้ โดยทางการนิวซีแลนด์กำลังดำเนินการติดตามรอยโรคอยู่ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า นิวซีแลนด์กับออสเตรเลียรู้ดีว่า เมื่ออนุญาตให้พลเมืองของทั้งสองประเทศเดินทางข้ามพรมแดนโดยไม่ต้องกักตัว ก็จะยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับการเปิดพรมแดนต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศยอมรับได้ ขณะนี้หน่วยงานสาธารณสุขนิวซีแลนด์กำลังประสานงานกับหน่วยงานของออสเตรเลีย โดยที่ทั้งสองประเทศยังไม่คิดที่จะสั่งระงับการเดินทางข้ามพรมแดนโดยไม่ต้องกักตัว หรือทราเวล บับเบิล ขณะที่นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียเผยว่า เขามั่นใจในระบบสาธารณสุขของนิวซีแลนด์อย่างเต็มเปี่ยมในการควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่
นิวซีแลนด์และออสเตรเลียใช้มาตรการปิดพรมแดน คำสั่งล็อกดาวน์ระยะสั้น และระบบติดตามรอยโรคที่รวดเร็ว ทำให้ทั้งสองประเทศมียอดผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ขณะนี้ นิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2,200 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 26 คน ส่วนออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 29,500 คน และผู้เสียชีวิต 910 คน.-สำนักข่าวไทย