ซูเปอร์โพล เผย ปชช. 81.1% หนุนตัดไฟแก๊งข้ามชาติ

2 ก.พ.- ซูเปอร์โพล เผย ปชช. 81.1% หนุน ‘อนุทิน’ ตัดไฟแก๊งข้ามชาติ เชื่อช่วยลดอาชญากรรมได้ แนะเสริมมาตรการกฎหมาย-เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ


เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2568 ที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ดร.ชาญวิชย์ อริยาวรนันต์ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง “ประชาชน คิดอย่างไร ต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ตัดไฟฟ้าประเทศเพื่อนบ้านแก้อาชญากรรมข้ามชาติ ”กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้นจำนวนทั้งสิ้น 1,143 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา

ดร.ชาญวิชย์ กล่าวต่อว่า ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในอัตราร้อยละ 81.1 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับมาตรการตัดไฟฟ้าเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 18.9 ที่ไม่เห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แนวทางดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชนในระดับสูง โดยประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าการ ตัดไฟฟ้าจะช่วยลดอิทธิพลของกลุ่มอาชญากรรมที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานของไทยเป็นฐานปฏิบัติการ


ดร.ชาญวิชย์ กล่าวอีกว่า ที่น่าสนใจ คือ เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อแนวทางการจัดระเบียบชายแดนของนายอนุทิน การสำรวจยังพบว่าประชาชนให้การสนับสนุนแนวทางการจัดระเบียบชายแดนของ นายอนุทิน อย่างมีนัยสำคัญ โดยร้อยละ 85.7 ของกลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับมาตรการดังกล่าว ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 14.3 ที่ไม่เห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อผู้นำในด้านการบริหารความมั่นคงของประเทศและการควบคุมแนวชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.ชาญวิชย์ กล่าวอีกว่า ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อสอบถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมาตรการตัดไฟฟ้าในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พบว่า ประชาชนร้อยละ 55.3 มีความเชื่อมั่นว่ามาตรการตัดไฟฟ้าจะสามารถลดอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเห็นว่าการกดดันด้านโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มผิดกฎหมายจะ ส่งผลให้กิจกรรมอาชญากรรมลดลง

ดร.ชาญวิชย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 52.8 มองว่าควรมีมาตรการอื่น ๆ เสริมเพิ่มเติม เช่น การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อตรวจจับและโจมตีเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ มันสะท้อนถึงแนวคิดว่าการตัดไฟเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่มาตรการที่เพียงพอ
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 44.4 ต้องการให้รัฐบาลมีความสามัคคีและใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ แทนที่จะมีความขัดแย้งทางการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ของมาตรการมากกว่าประเด็นทางการเมือง


ดร.ชาญวิชย์ กล่าวอีกว่า ผลสำรวจยังพบด้วยว่า ประชาชนร้อยละ 43.9 สนับสนุนการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อดำเนินการตรวจสอบและควบคุมการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ต้องสงสัย เพื่อลดโอกาสของกลุ่มอาชญากรรมในการใช้โครงสร้าง พื้นฐานของรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตน ขณะเดียวกัน มีประชาชนเพียงร้อยละ 13.7 ที่แสดงความกังวลว่าการตัดไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจในพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ให้การสนับสนุนมาตรการดังกล่าว

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะจากผลสำรวจครั้งนี้ ในการปฏิบัติการลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนมาตรการตัดไฟฟ้า ในฐานะเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และประชาชนยังเสนอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการเสริมที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ 1. บูรณาการมาตรการหลายมิติ เช่น ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ , เสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน , ออกมาตรการเชิงกฎหมายที่เข้มงวดเพื่อควบคุมเส้นทางเงินและทรัพย์สินของขบวนการอาชญากรรม 2.สร้างความสามัคคีทางการเมืองในการแก้ไขปัญหานี้ 3. ตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อตรวจสอบและดำเนินการอย่างตรงจุด .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก