ควันหลงศึกเลือกตั้ง อบจ. ทั่วไทย

2 ก.พ.- ประมวลภาพบรรยากาศ หลังสิ้นสุดศึกเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ “ตัวเต็ง-บ้านใหญ่” ลุ้นผลคะแนนกันแบบเรียลไทม์ ดุเดือดสูสี


ภายหลังสิ้นสุดศึกเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ. ที่เชียงใหม่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ที่ลงชิงตำแหน่งสมัยที่ 2 ในนามพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างใส่เสื้อสีแดงร่วมลุ้นผลการเลือกตั้งภายในบ้านพักของนายพิชัย ที่ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยช่วงค่ำ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเดินทางมาช่วยนายพิชัย ปราศรัยหาเสียงหลายครั้ง ได้โทรศัพท์มาสอบถามสถานการณ์คะแนนและความมั่นอกมั่นของนายพิชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย

บรรยากาศการลุ้นผลการเลือกตั้งที่บ้านนายพิชัย เป็นไปอย่างตึงเครียด โดยนายพิชัย นั่งลุ้นผลการนับคะแนนแบบติดขอบจอ กว่า 3 ชั่วโมง โดยช่วงแรกผลคะแนน ทั้งนายพิชัยและตัวแทนจากพรรคประชาชน ต่างผลัดกันขึ้นนำอย่างคู่คี่สูสี ก่อนที่คะแนนของนายพิชัยจะพลิกขึ้นนำในช่วง 1 ทุ่มและหลังจากนั้นคะแนนก็ค่อยๆ นำห่างออกไปเรื่อยๆ จนช่วงเวลา 4 ทุ่ม นายพิชัยได้ประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ หลังรู้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ นายพิชัยได้ เกือบ 3.8 แสนคะแนน เฉือนชนะ ดร.พันธ์ุอาจ จากพรรคประชาชนที่ได้ 3.6 แสนคะแนน ห่างกันเพียง 2 หมื่นคะแนนเท่านั้น ทำให้นายพิชัยก้าวสู่เก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ สมัยที่ 2


ขณะที่ผู้สมัครพรรคประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่หลายคน ถึงกับหลั่งน้ำตาความดีใจที่ได้รับการเลือกตั้ง ด้านนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคประชาชนแม้ว่าจะแพ้การเลือกตั้ง กล่าวแสดงความยินดีกับ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิสร ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 2 พร้อมทั้งขอบคุณประชาชนที่มอบคะแนนให้ทุกคะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่บริสุทธิ์ ไม่คิดว่าจะมาไกลถึงขนาดนี้

ทั้งนี้ ผลอย่างไม่เป็นทางการ ทำให้ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ของพรรคประชาชน ได้รับการเลือกเข้าสภาฯ มากถึง 14 เขต จากทั้งหมด 42 เขต

“อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” นั่งนายก อบจ.เชียงราย


ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่านางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 1 มีคะแนนนำห่างนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 2 สำหรับการนับคะแนนในช่วงแรก นางสลักจฤฎดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 มีคะแนนนำคู่แข่งห่างอยู่ประมาณเกือบ 2,000 คะแนน เมื่อนับคะแนนไปประมาณ 50% นางอทิตาธร มีคะแนนตีตื้นขึ้นมานำ และพอนับคะแนนได้ประมาณ 75% ผู้สมัครหมายเลข 1 ก็สามารถนำห่างผู้สมัครหมายเลข 2 ประมาณ 10,000 คะแนนเศษ จนเป็ยผู้ชนะการเลือกตั้งไป จนเวลา 22.48 น. พบว่าหลังนับไปแล้ว 94.08% พบหมายเลข 1 อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้ 246,593 คะแนน นำหมายเลข 2 สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช พรรคเพื่อไทย ได้ 227,765 คะแนน และหมายเลข 3 นางสาวจิราพร หมื่นไชยวงศ์ ได้ 19,778 คะแนน (ผลคะแนนไม่เป็นทางการ)

“อนุทิน” กราบขอบคุณชาวศรีสะเกษ เทคะแนนดัน “วิชิต” นั่งเก้าอี้นายก อบจ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาแสดงความยินดีกับนายวิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีษะเกษ หลังคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างผู้สมัครคนอื่นกว่า 100,000 คะแนนที่ศูนย์ประสานงานของนายวิชิต ไตรสรณกุล โดยทันทีที่นายอนุทิน ลงจากรถ ได้สวมกอดนายวิชิต เพื่อแสดงความยินดี ก่อนจะสวมกอดนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ลูกสาวของนายวิชิต แล้วตบไหล่ โดยระหว่างที่เดินเข้าไปยังศูนย์ประสานงาน มีคนแซวว่า “เขาไล่ไปแล้ว” นายอนุทินจึงหันมาตอบว่า ” ไล่ก็ไม่ไป” พร้อมพูดต่อว่า “เขาบอกกวาดให้เกลี้ยง คือกวาดให้ส้มเกลี้ยง (ชื่อเล่นนายวิชิต)” ก่อนจะหัวเราะ

จากนั้นนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีตสส. ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย พูดกับนายอนุทินว่า ที่นายอนุทินเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าแพ้ ให้เอาปี๊ปมาคลุมหัว วันนี้ตนขอเอาปี๊ปมาคืนนายอนุทิน ก่อนที่จะไปหยิบปี๊ปมาคืนให้นายอนุทิน แต่นายอนุทินนำปี๊ป มาสวมให้กับนางสาวไตรศุลีแทน โดยระหว่างที่นายอนุทิน เดินแสดงความยินดีอยู่นั้น มีทีมงานของนายวิชิต นำส้มมามอบให้ 1 ตะกร้า นายอนุทิน หยิบส้มมาปอกเปลือกกินทันที ก่อนจะพูดติดตลกว่า “จะกินให้เกลี้ยง”

“เซ็ง ยาวอหะซัน” ชนะเลือกตั้ง นายก อบจ.นราธิวาส อีกสมัย

สำหรับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ผู้ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.นราธิวาส คือ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายก อบจ.นราธิวาส 5 สมัย หมายเลข 1 เป็นผู้ชนะนายอับดุลลักษณ์ สะอิ หรือ แบเลาะห์ หมายเลข 2 ด้วยคะแนนเสียง 187,051ต่อ 177,798 คะแนน ซึ่งถือว่าได้เป็นนายก อบจ.นราธิวาส สมัยที่ 6 ติดต่อกัน ที่คะแนนต่างกัน 9,253 คะแนน ส่วนผู้สมัครหมายเลข 3 คือ น.ส.อาอีซะห์ แดะ ได้คะแนนเสียง 2,483 คะแนน

ส่วนการเลือกตั้งในครั้งนี้มีประชาชนมีสิทธิลงคะแนนเสียงทั้งสิ้น จำนวน 584,535 คน และได้เดินทางมาใช้สิทธิ จำนวน 394,327 คน คิดเป็นร้อยละ 47.46 และพื้นที่ อ.ยี่งอ มีประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิร้อยละ 73.14 เดินทางมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งล่าสุดจากผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.นราธิวาส ในครั้งนี้ ยังไม่พบการร้องเรียนรื่องการทุจริตแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

น้ำโขงใกล้แตะ 9 เมตร สทนช.เตือนเฝ้าระวัง

บึงกาฬ 6 ก.ค.- “แม่น้ำโขง” ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้แตะ 9 เมตร สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดฝนตกติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป ลาว ตอนบน ประกอบกับ สปป ลาว มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง และมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ วัดได้ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 30 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่ประตูระบายน้ำ ข้างสำนักงาน ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าทีเทศบาลได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่นเดียวกับบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร เรือโดยสารขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารไทย-ลาว ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงไหลแรงและมีเศษวัชพืช เศษขยะไหลมากับสายน้ำ พร้อมขยับปรับระดับโป๊ะเทียบท่าให้อยู่ในระดับพอดี และผูกเชือกมัดโยงให้แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม […]