ปทุมธานี 28 ม.ค. – สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อ น.ส.สายสุนีย์ อายุ 31 ปี จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เล่าว่าผู้เสียชีวิตมาคลอดลูก เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นลูกแฝด และเพิ่งนำลูกแฝดมารักษาเมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ห้องธาลัสซีเมีย ชั้น 8 ต่อมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดจับภาพผู้เสียชีวิตเดินมาดูที่หน้าต่างริมลิฟต์ที่ชั้น 8 ก่อนเดินเข้าทางบันไดหนีไฟขึ้นมาบนชั้น 18 เพียงคนเดียว และกระโดดตรงหน้าต่างตกลงมาอยู่ที่นอกระเบียงชั้น 2
ด้านเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดปทุมธานี เดินทางไปรับลูกของผู้เสียชีวิตที่อยู่ห้องพักอีก 2 คน คือ “น้องกรีน” อายุ 11 ขวบ และ “น้องกังฟู” อายุ 6 ขวบ ที่ห้องเช่าพัก เพื่อนำเด็กมาดูแลก่อน
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. มีนายเมืองแมน อายุ 34 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจที่ สภ.เมืองปทุมธานี โดยพี่ชายให้การว่า ไม่รู้เรื่องราวที่น้องสาวเครียด เพราะไม่ค่อยได้พูดคุยกัน พร้อมกันนี้ได้ไปรับหลานสาวและหลานชาย ที่ทางเจ้าหน้าที่ พม. ไปรับมาจากห้อง เพื่อไปดูแล และจะไปรับศพน้องสาววันนี้ (28 ม.ค.) เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.เพชรบูรณ์
เพื่อนบ้าน น.ส สุกัญญา อายุ 39 ปี เล่าว่า น.ส.สายสุนีย์ ผู้ตาย มาเช่าห้องที่หอพักแห่งนี้ได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว โดยมีลูกมาอยู่ด้วย 2 คน และเขาก็ตั้งครรภ์ด้วย แต่ไม่เคยเห็นแฟนเขา ปกติ น.ส.สายสุนีย์ เป็นคนนิสัยดี เข้ากับเพื่อนร่วมหอได้ทุกคน ส่วนลูกเขาทั้งสองน่ารัก ช่วยแม่ทำงานบ้าน เชื่อฟังและตัว น.ส.สายสุนีย์ ทำงานเป็น รปภ. ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กระทั่งเพิ่งลาออกได้ไม่ถึงเดือน เพราะต้องคลอดลูก
ช่วงเวลาประมาณ 8 โมงเศษ น.ส.สายสุนีย์ โทรศัพท์มาหาน้องกังฟู บอกให้ลูกแต่งตัวไปโรงเรียน ก่อนจะคุยกับตน โดยเขาร้องไห้และบอกว่าหนูเครียดมาก เพราะลูกแฝดที่พึ่งผ่าคลอดมีอาการสำลักนมและตัวเหลือง ตนได้ปลอบว่าอย่าคิดมาก เดี๋ยวหมอเขาดูแลให้ ตั้งสติให้ดี
โรงพยาบาลออกแถลงการณ์กรณีผู้ป่วยพลัดตกตึกเสียชีวิต ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต อายุ 31 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์พลัดตกจากอาคาคารศูนย์การแพทย์ 18 ชั้น ในช่วงเช้าของวันนี้ (27 ม.ค.) ผู้เสียชีวิตเป็นมารดาของทารกแฝดที่คลอดก่อนกำหนด เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยทารก หลังจากผู้เสียชีวิตได้รับการอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 โดยได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบุตรที่โรงพยาบาล และพักอยู่กับญาติ
โรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนอย่างเต็มที่ โรงพยาบาลพร้อมในการทำมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในกรณีแบบนี้ขึ้นอีก โดยเบื้องต้นระหว่างรอผลการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง โรงพยาบาลได้ทำการทบทวนมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุดของโรงพยาบาล และจะนำผลจากการทบทวนมาดำเนินการในทันที.-สำนักข่าวไทย