“สุพัฒนพงษ์” วอนคนออมใช้เงินร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 25 มี.ค.-“สุพัฒนพงษ์” วอนคนออมใช้เงินร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังพบ ตัวเลขการออมเติบโตช่วงโควิด พุ่งจากเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปีเป็นร้อยละ 11 ต่อปี มอบกระทรวงการคลังศึกษานโยบายดึงเงินมาใช้ลักษณะจ่ายร่วมกับรัฐ ยืนยันตั้งเป้าหมายจีดีพีปีนี้เติบโตร้อยละ 4


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานสัมมนา “ปี 2021 ประเทศไทยไปต่อ” โดยเชื่อว่า ประเทศไทยยังสามารถเดินหน้าต่อได้ และภาครัฐจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ให้มีอัตราการเติบโตที่ระดับร้อยละ 4 แม้หลายหน่วยงานจะมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจเติบโตได้เพียงร้อยละ 3 หรืออาจน้อยกว่านั้น เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้เพียงร้อยละ 2.7 เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากรายได้การท่องเที่ยวที่หดหายไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19      

“การที่เศรษฐกิจไทยจะไปสู่เป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 4 ต้องเตรียมความพร้อมเปิดประเทศในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาให้ได้ก่อนเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งต้องเริ่มเปิดเข้าประเทศก่อนเดือนตุลาคมไม่ได้หมายถึงการเปิดรับแบบทั้ง 100 % ทั่วประเทศ เป็นเพียงการเปิดให้เข้ามาได้เฉพาะบางจังหวัดตามความสมัครใจของประชาสังคมนั้น ๆ ด้วย เช่น จังหวัดภูเก็ต เน้นนักท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพมากขึ้นและมีการใช้จ่ายต่อหัวสูงขึ้น จะไม่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวแบบ 40 ล้านคน  แต่เน้นคุณภาพ”  ” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว


นายสุพัฒนพงษ์ ยังมองว่า ขณะนี้ประเทศไทยถือได้ว่าเข้าสู่ช่วงปลายของการระบาดโควิด-19 แล้ว ซึ่งรัฐบาลจะต้องประคองและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วย ขณะเดียวกันหวังให้ภาคประชาชนที่มีเงินออม นำเงินที่ออมส่วนหนึ่งออกมาใช้จ่ายอันเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปศึกษามาตรการเพื่อจูงใจให้คนกลุ่มนี้นำเงินออมส่วนเกินออกมาใช้ โดยเบื้องต้นอาจมีรูปแบบคล้าย co pay(จ่ายร่วมกัน ) ส่วนรายละเอียดจะเป็นลักษณะใดขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปศึกษาก่อน

“ไม่ใช่หมายความให้ทุกคนเลิกออม แต่ที่ผ่านมาตัวเลขการออมเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี แต่ปีที่ผ่านมาการออมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ11 หากนำเงินออมส่วนเกินออกมาจับจ่ายใช้สอย มาช่วยชาติ เกิดเงินหมุนเวียน ได้สินค้าและบริการที่ราคาไม่แพง  โดยรัฐมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งก็รอกระทรวงการคลังศึกษาเรื่องนี้” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง