นายกฯ รับ ศก.ไทยมีปัญหาหลายด้าน ขอเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน

เศรษฐกิจไทยมีปัญหา


กระทรวงการคลัง 4 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ยอมรับเศรษฐกิจไทยมีปัญหารุมเร้าหลายด้าน ขอเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน ชี้เครื่องมือสำคัญ กระตุ้นเศรษฐกิจขอทุกระทรวงผลักดันงบลงทุนกว่า 9.6 แสนล้านบาท ลงสู่ระบบเศรษฐกิจไทย หวังสร้างรายได้ให้ประชาชน


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2567 ที่อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมรับมอบของที่ระลึกจาก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2567 โดยกล่าวก่อนเริ่มการประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้ ได้พบปะกับหัวหน้าส่วนราชการเป็นครั้งที่ 2 แต่บางคนซึ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ ถือเป็นการพบเจอครั้งแรก จึงรู้สึกดีใจที่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ขอขอบคุณปลัดกระทรวงการคลังที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมครั้งนี้ และถือเป็นโอกาสแรกที่ได้มาที่นี่ ซึ่งตึกสวยงามและน่าทำงาน หวังว่า ทุกคนจะมีการทำงานที่สดชื่นและสดใสต่อไป พร้อมที่จะพัฒนาประเทศร่วมกัน


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า กระทรวงการคลังถือเป็นเสาหลักด้านการคลังของประเทศ เพื่อพัฒนาด้านเศรษฐกิจให้ยั่งยืนต่อไป ซึ่งในช่วงท้ายจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหารือมาตรการด้านเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีปัญหารุมเร้าหลายด้าน ทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานานและมีความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองของโลก ดังนั้นจึงต้องแก้ไขปัญหาที่สะสม พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น โดยเครื่องมือสำคัญคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการใช้จ่ายของภาครัฐโดยเฉพาะงบลงทุนที่มีมูลค่าถึง 9.6 แสนล้านบาท คิดเป็นมูลค่ามากกว่าร้อยละ 5 ของจีดีพีประเทศ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอให้ผู้บริหารระดับสูงของแต่ละกระทรวงร่วมกันผลักเม็ดเงินการลงทุน ลงในระบบเศรษฐกิจเพื่อสร้างจีดีพีให้ประเทศและสร้างรายได้ให้กับประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

กรมอุตุฯ เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน กระทบ​ 53 จังหวัด​

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน​ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก มีผลกระทบ​ 53 จังหวัด​ ระหว่าง​ 29​ มี.ค.-1 เม.ย.68​