แคนเบอร์รา 12 มี.ค. – ออสเตรเลียจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาให้แก่ประชาชนต่อไป เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แม้บางประเทศในทวีปยุโรปได้สั่งระงับการใช้วัคซีนดังกล่าวแล้วก็ตาม
เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ประกาศระงับการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา เมื่อวานนี้ หลังมีรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในประชาชนบางส่วนที่ฉีดวัคซีนดังกล่าว รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า จะไม่สั่งระงับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลยาของออสเตรเลีย กำลังเฝ้าระวังเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
นายไมเคิล แมคคอร์แมค รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ยืนยันว่า รัฐบาลจะยังคงฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาให้แก่ชาวออสเตรเลียต่อไป ขณะที่นายพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา ทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แต่จะสืบสวนกรณีดังกล่าวอย่างจริงจังต่อไป
ออสเตรเลียได้สั่งซื้อวัคซีนของแอสตราเซเนกา จำนวน 54 ล้านโดส ในจำนวนนี้เป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศ จำนวน 50 ล้านโดส ออสเตรเลียฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนราว 150,000 คนแล้ว แม้ว่าจะเผชิญกับแรงกดดันน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ เนื่องจากไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนเกือบ 2 สัปดาห์ ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 29,000 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว.- สำนักข่าวไทย