กรุงเทพฯ 17 ธ.ค.-พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์แห่งพระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี หรือช้อปช่วยชาติ เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา จากการซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศ ระหว่างวันที่ 14 – 31 ธันวาคมนี้ ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาท/คน คาดมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 2 ล้านคน กระตุ้นการใช้จ่ายได้มากกว่า 20,000 ล้านบาท และสามารถลดการจัดเก็บภาษีได้กว่า 3,200 ล้านบาท กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า หากครั้งนี้ทำให้เงินสะพัดได้ถึง 20,000 ล้านบาท จะคิดเป็นประมาณ 0.2% ของจีดีพี ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
กรมสรรพากร สรุปรายการสินค้าและบริการที่ซื้อแล้วสามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้นั้น ได้แก่ สินค้าทุกประเภทจากร้านสะดวกซื้อ หรือจากห้างสรรพสินค้า, ค่าอาหารและเครื่องดื่มในร้านอาหารหรือในโรงแรม, ค่านวดหน้า สปา, ค่าอุปกรณ์แต่งรถ อะไหล่รถ และค่าซ่อมรถ, ทองคำรูปพรรณ (ได้สิทธิลดหย่อนเฉพาะค่ากำเหน็จ), สินค้าในร้าน duty free (เฉพาะสินค้าที่เสีย VAT), ซื้อบัตรเพื่อแลกรับบริการ
โดยสินค้าและบริการที่ลดหย่อนไม่ได้ มี 12 ชนิด ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล หรือทำศัลยกรรม, ค่าซื้อทองคำแท่ง (ทองรูปพรรณลดหย่อนได้เฉพาะค่ากำเหน็จ), ค่าน้ำ ค่าไฟ และโทรศัพท์, ค่าน้ำมันรถ ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ, ค่าที่พักโรงแรมในประเทศ, ค่าซื้อแพ็กเกจทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ และต่างประเทศ, ค่าตั๋วเครื่องบิน, ประกันชีวิต และประกันรถยนต์, ค่าซื้อเนื้อหมู ไก่ ปลา, หนังสือ นิตยสาร ตำราเรียน, บัตรของขวัญของห้างสรรพสินค้า (Gift voucher) และสุดท้ายสุรา เบียร์ ไวน์ และบุหรี่ เพราะเป็นสินค้าที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) อยู่แล้ว
ข้อควรระวังคือ ต้องขอใบกำกับภาษีแบบเต็มตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ที่มีข้อความระบุชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการอย่างชัดเจน เพื่อนำมาใช้ประกอบการขอยกเว้นภาษี.-สำนักข่าวไทย