รัฐสภา 16 ก.พ.-ปธ.วิปฝ่ายค้านเผย ซักฟอกวันแรกพุ่งเป้านายกฯ ส่วนจะอภิปราย “บิ๊กป.” เลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เรื่องสถาบันไว้วันท้าย ๆ ย้ำกรอบเวลา 42 ชม. แนะรัฐบาลใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันนี้(16 ก.พ.) เป็นวันแรก ว่า ผู้ที่จะอ่านญัตติคือนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะเป็น ตนเองในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งจะเป็นการชี้แจงในภาพรวมและรายละเอียด และต่อด้วยแต่ละพรรคที่จะจัดสรรผู้อภิปรายในรายละเอียด
“วันนี้เป้าหมายหลักจะอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกรวงกลาโหม ซึ่งอาจพาดพิงถึงรัฐมนตรีคนอื่นด้วยที่เกี่ยวข้อง ส่วนไฮไลท์จะมีพล.ต.องเสรีพิศุทธ์ เตมียเวศ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ส่วนจะมีไฮไลท์อื่นๆหรือไม่ต้องรอติดตามข้อมูลว่ามีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน เชื่อว่าจะมีความเข้มข้นตั้งแต่การอภิปรายวันแรก” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการประท้วงตั้งแต่เริ่มการอ่านญัตติ นายสุทิน กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ พิจารณาและเห็นชอบญัตติว่าไม่ขัดต่อข้อบังคับการประชุมแล้ว เชื่อว่าประธานจะควบคุมการประชุมและชี้แจงรายละเอียดของญัตติว่าเป็นไปตามข้อบังคับได้
เมื่อถามว่าจะหารือกับวิปรัฐบาล กรณีหากพาดพิงสถาบันและเกิดการประท้วง จนทำให้การประชุมไม่ราบรื่นหรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรื่องสถาบันคงไม่อภิปรายในวันนี้ คาดว่าน่าจะอภิปรายในวันท้าย ๆ แต่ที่ฝ่ายค้านเป็นห่วงคือ เรื่องของกรอบเวลา เพราะฝ่ายค้านขอเวลาอภิปราย 42 ชั่วโมง ส่วนรัฐบาลจะใช้เวลาเท่าใดฝ่ายค้านไม่ขัดข้อง แต่เป็นห่วงว่ารัฐบาลจะใช้เวลาที่มีไม่จำกัดไปในการประท้วงมากกว่า จึงอยากให้รัฐบาลใช้เวลาของตนเองให้เกิดประโยชน์
ส่วนการอภิปราย บิ๊ก ป. ที่ตามฝ่ายค้านระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับส่วยแรงงานต่างด้าวเข้าเมือง ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เลยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นกำหนดไว้เป็นคิวต้น ๆ ส่วนจะอภิปรายในวันแรกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ถ้ามีประท้วงหรือชี้แจงจากรัฐบาล อาจเลื่อนได้ตามความเหมาะสม
นายสุทิน กล่าวถึงกรอบเวลาการอภิปรายว่า ฝ่ายค้านยังยืนยันว่าขอเวลา 42 ชั่วโมงและสามารถอธิบายจบได้ภายใน 4 วัน แต่หากรัฐบาลใช้เวลาชี้แจงเกินเวลา อาจเป็นไปได้ที่จะขยายวัน ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย