กลาโหม 27 ส.ค.-“สุทิน” สั่งทัพเรือเร่งผลักดันน้ำเหนือออกอ่าวไทย หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี 2554
นายสุทิน คลังแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังการประชุมสั่งการเพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทย และเหล่าทัพ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ กระทรวงกลาโหม ว่าวันนี้ กระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพไทย และกองทัพภาคที่ 3 รวมทั้งทุกมณฑลทหารบกในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ด้วย ซึ่งได้มีการรายงานสถานการณ์ และการแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยรวมเป็นที่น่าพอใจ แต่มีเรื่องหนึ่งที่คิดว่าจะต้องเร่งทำเพิ่ม คือการเร่งผลักดันน้ำเหนือที่ลงมาตามลำน้ำเจ้าพระยา โดยกองทัพเรือซึ่งมีความพร้อมในยุทโธปกรณ์ด้านนี้ จะต้องเร่งผลักดันน้ำออกสู่อ่าวไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งในปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่นั้น เกิดจากการที่ผลักดันน้ำออกทะเลไม่ได้และไม่ทัน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้กองทัพเรือเตรียมพร้อมในการผลักดันน้ำโดยเร็วที่สุด จะทำให้ปัญหาและความน่าหนักใจในพื้นที่กรุงเทพมหานครเบาบางลง กว่าปี 2554
ทั้งนี้ กองทัพเรือได้รายงานในที่ประชุม ถึงการสำรวจจุดล่อแหลมและจุดเสี่ยงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อาจเกิดคันกั้นน้ำพัง ซึ่งมีหลายจุดที่สถานการณ์น่าเป็นห่วงอยู่มาก โดยขอให้ทุกภาคส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบนอกเหนือจากกองทัพเรือ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ให้รีบเข้าไปช่วยดำเนินการ
นายสุทินยังกล่าวว่า ตนได้สั่งการในที่ประชุมด้วยว่า แม้จะเป็นพื้นที่ที่ยังไม่เกิดปัญหาอุทกภัย ก็ให้มีการเตรียมการรับมือ เช่น ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 4 ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งอาจจะต้องเตรียมการรับมือล่วงหน้าประมาณ 1-2 เดือน โดยได้กำชับว่าให้ทุกหน่วยทำวันนี้ให้ดีที่สุด
นายสุทิน กล่าวว่า จากการติดตามพยากรณ์อากาศในอีก 1 เดือนข้างหน้า พบว่าอาจมีมรสุมตามมาอีก ซึ่งจะพาดผ่านระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ และจะทำให้ทั้งสองพื้นที่นี้ได้รับผลกระทบ และทำให้สถานการณ์น่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เกิดขึ้นในขณะที่มีนายกรัฐมนตรีหญิง ทั้งสองคนนั้น นายสุทินหัวเราะ ก่อนที่จะกล่าวว่าเป็นเรื่องบังเอิญเฉยๆ และย้ำว่า สถานการณ์ในกรุงเทพฯ จะไม่น่าเป็นห่วง หากกองทัพเรือสามารถดำเนินการผลักดันน้ำตามที่ได้สั่งการไว้ ในขณะเดียวกันหน่วยงานอื่นก็จะต้องมาช่วยดำเนินการกำจัดผักตบชวาที่กีดขวางลำน้ำ ทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองสายเล็กสายน้อยออกให้หมดด้วย เพื่อให้น้ำสามารถไหลไปได้เร็วและไม่ท่วม
ส่วนข้อห่วงใยที่ชาวบ้านขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลดนั้น นายสุทิน ระบุว่าได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้า ซึ่งรัฐบาลมีความพร้อม และสำนักงบประมาณก็ยืนยันว่ามีงบประมาณเพียงพอ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมา อาจส่งผลกระทบต่อการเสด็จพระราชดำเนินขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในเดือนตุลาคมนี้หรือไม่ นายสุทิน ระบุว่ายังไม่ได้มีการหารือกันในที่ประชุมฯ ของเหล่าทัพ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะส่งผลกระทบบ้าง แต่หากเร่งผลักดันน้ำออกให้เร็วที่สุด ก็น่าจะช่วยได้ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่จะตกลงมาหลังจากนี้ว่ามีมากน้อยเพียงใด ถ้าดูจากปริมาณฝนที่ตกในวันนี้พบว่ายังไม่น่าห่วง แต่ถ้าหลังจากนี้ฝนตกลงมาในปริมาณที่มาก และเกินความคาดหมายก็อาจจะลำบาก.-313.-สำนักข่าวไทย