กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – กรมราง ทำหนังสือด่วนถึง กทม. นัดถกปมขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว สูงสุด 104 บาท ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมเบรกปรับราคา 16 ก.พ. ออกไปก่อน ชี้ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ออกประกาศเพื่อปรับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายอยู่ที่ 104 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ขร.พิจารณาแล้วเห็นว่า อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามที่ กทม.ประกาศมานั้น เป็นการกำหนดค่าโดยสารที่เป็นภาระแก่ประชาชน และไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ที่ได้มีการระบุไว้ชัดเจนว่า การโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายให้ กทม. กระทรวงคมนาคม และ กทม. จะต้องมีการบูรณาการร่วมกันในการกำหนดอัตราแรกเข้า อัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมเป็นธรรมกับประชาชน และไม่เป็นภาระแก่ประชาชน สอดคล้องกับค่าครองชีพของผู้ใช้บริการ
และเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ในวันนี้ (18 ม.ค.) ทาง ขร.จึงได้ส่งหนังสือถึงปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเชิญประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนร่วมกัน และขอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ออกไปก่อน จนกว่าจะมีการพิจารณาและได้ข้อสรุปร่วมกัน ซึ่งเห็นควรว่า ควรที่จะประชุมเพื่อหาข้อสรุปในสัปดาห์นี้”
นายกิตติพันธ์ กล่าวต่อว่า กรมรางได้มีข้อเสนอแนะในการขยายสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า การคิดอัตราค่าโดยสารนั้นต้องคำนึงถึงความเหมาะสม วิเคราะห์จากต้นทุนที่แท้จริง และควรกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกที่สุด เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ ซึ่งจะแก้ปัญหาการจราจรใน กทม.
สำหรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีการแบ่ง 4 ช่วง คือ 1. ช่วงสัมปทานของบีทีเอส (หมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาฯ-สะพานตากสิน) ค่าโดยสาร 16-44 บาท 2. ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต ค่าโดยสาร 15-45 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นสถานีละ 3 บาท) 3. ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-เคหะสมุทรปราการ 15-45 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นสถานีละ 3 บาท) 4. ส่วนต่อขยายสะพานตากสิน-บางหว้า 15-33 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นสถานีละ 3 บาท). – สำนักข่าวไทย