นิวยอร์ก 5 ม.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐเผยว่า สหรัฐแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไปแล้ว 15 ล้านโดส แต่กว่าสองในสามยังไม่ได้นำไปใช้ ด้านรัฐนิวยอร์กและรัฐฟลอริดาประกาศลงโทษโรงพยาบาลที่ฉีดวัคซีนล่าช้า
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) เผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลกลางแจกจ่ายวัคซีนให้แก่รัฐและดินแดนต่าง ๆ ทั่วประเทศไปแล้วกว่า 15 ล้านโดส แต่จนถึงขณะนี้มีการฉีดเพียง 4.5 ล้านโดสเท่านั้น ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งเป้าจะฉีดให้ได้ 20 ล้านคนภายในสิ้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้ป่วยะสมในสหรัฐเกิน 20 ล้านคนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตกว่า 350,000 คน อัตราเสียชีวิตตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2,600 คนในทุก 24 ชั่วโมง พล.ร.ท.เจอโรม อดัมส์ แพทย์ใหญ่สหรัฐให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสนิวส์รับปากว่า จะเร่งดำเนินการให้ดีขึ้นและจะฉีดเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า
นายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กขีดเส้นตายให้โรงพยาบาลต้องฉีดวัคซีนภายในสัปดาห์ที่ได้รับ ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับและลดจำนวนวัคซีนที่จะได้รับในอนาคต โรงพยาบาลในรัฐนี้ฉีดวัคซีนไปไม่ถึงครึ่งหนึ่งของที่ได้รับ หากแยกเป็นโรงพยาบาลรัฐฉีดไปได้เพียงร้อยละ 31 ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนไม่กี่แห่งฉีดไปเกือบครบ ผู้ว่าการัรฐนิวยอร์กแถลงในอีกหลายชั่วโมงต่อมาว่า พบผู้ป่วยเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์แพร่เร็วขึ้นที่พบในอังกฤษ B.1.1.7 เป็นคนแรกของรัฐแล้ว เป็นชายวัย 60 ปีเศษ ด้านนายรอน เดอแซนติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาประกาศว่า โรงพยาบาลที่ฉีดวัคซีนล่าช้าจะถูกโยกวัคซีนไปให้โรงพยาบาลที่ดำเนินการได้ดี ทางการจะเพิ่มเสริมพยาบาลอีก 1,000 คน และจะเปิดจุดฉีดวัคซีนทุกวัน
รอยเตอร์ชี้ว่า ปัญหาการฉีดวัคซีนล่าช้าในสหรัฐเกิดจากกระแสความไม่เชื่อใจวัคซีน เพราะแม้แต่บุคลากรทางการแพทย์บางส่วนก็ไม่เชื่อ เนื่องจากมีการเร่งพัฒนาและอนุมัติเร็วกว่าปกติ เจ้าหน้าที่บางคนโทษว่า เป็นเพราะไม่มีการวางแผนที่ดีพอและปัญหาโลจิติกส์.-สำนักข่าวไทย