รัฐสภา 26 ต.ค.-“วิษณุ” ยันสภาไม่ผิด ไม่เข้าข่ายยุบสภา แต่ถ้าให้นายกฯ ลาออก ต้องเลือกใหม่ตามรัฐธรรมนูญเดิม เผยนายกฯ ปรารภข้อเสนอทำประชามติ เตรียมหารือประธานสภาหาช่องทาง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงถึงเหตุ 3 ข้อที่รัฐบาลว่งมาให้นายชวน หลีกภัย ประานรัฐสภา เพื่อขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญ รัฐสภา ว่า ไม่ใช่ญัตติ แต่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่สำคัญและกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนญัตติที่ต้องการให้เปิดสมัยประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อต้องการรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกรัฐสภาว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ข้อนี้อย่างไร เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปโดยราบรื่น
“ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมหลายเรื่อง รัฐบาลได้พยายามดำเนินการให้แล้ว เช่น เรื่องการเสนอให้เปิด ประชุมสมัยวิสามัญรัฐสภา ขอให้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการเร่งรัดให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อดูไทม์ไลน์แล้วจะเร่งให้เร็วที่สุดได้ในเดือนธันวาคม แต่ต้องออกเสียงประชามติ ซึ่งขณะนี้ร่างการออกเสียงประชามติแล้ว คาดว่าจะเสนอเข้าสู่สภาได้ในสัปดาห์หน้า และเมื่อพิจารณาเสร็จแล้วต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยมีระยะเวลา 90 วัน แต่หากตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) จะต้องคัดเลือกกันอีก ระยะเวลาก็จะขยับออกไป” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวถึงข้อเสนอ 3 ข้อของกลุ่มผู้ชุมนุมคือ ให้นายกรัฐมนตรียุบสภาลาออกและปฏิรูปสถาบัน ว่าเรื่องของการปฏิรูปสถาบันคืออะไร หมายความว่าอะไรรัฐบาลไม่ทราบ และอยากจะฟังจากสมาชิก แต่ข้อเสนอเรื่องยุบสภาได้ใคร่ครวญแล้วยังไม่เห็นว่าสภาจะมีความผิดหรือมีความขัดแย้ง แต่หากเป็นความประสงค์หรือเจตนารมย์นายกรัฐมนตรีจะหารือผู้เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก ฝ่ายกฎหมายได้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีว่าหากลาออก การหานายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ที่ยังไม่ได้แก้ไข และต้องเลือกจากบัญชีรายชื่อ
“ขณะนี้มี 5 คน หากไม่นับพล.อ.ประยุทธ์และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ขณะนี้มีสมาชิกรัฐสภา 732 คน ซึ่งเท่ากับ 366 เสียง แต่ขณะนี้ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลมีเสียงไม่ถึง 366 เสียง จึงมีคนเสนอว่า ถ้าถึงทางตัน ให้พรรคพลังประชารัฐไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็มีเสียงสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อ ไม่ต้องลาออก จึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณาต่อไป” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่ามีข้อเสนอของฝ่ายค้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีปรารภว่ามีข้อเสนอว่าควรถามประชามติ จากประชาชน แต่ปัญหาคือการทำประชามติไม่สามารถทำเรื่องตัวบุคคลได้ แต่หากมีกลวิธีในการตั้งคำถามเพื่อทำประชามติที่แนบเนียนและแยบยลก็จะนำไปพิจารณาหากเป็นข้อเสนอของที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะนำไปหารือต่อประธานรัฐสภาว่าข้อเสนอนี้เป็นไปได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การลาออกหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย