วอชิงตัน 17 ต.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐพยายามชักชวนให้ชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อลดภาระโรงพยาบาลที่กำลังดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่ให้ล้นจนรับไม่ไหวในช่วงฤดูหนาวนี้ แต่เผชิญอุปสรรคจากข่าวเท็จที่แพร่กระจายในสื่อสังคมออนไลน์
ข่าวลือเท็จมีตั้งแต่อ้างว่า การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำให้เสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 ทำให้ผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก ไปจนถึงวัคซีนของบริษัทยาบางแห่งทำให้เสียชีวิตมากกว่าโรคโควิด-19 ราว 2.4 เท่า มหาวิทยาลัยมิชิแกนศึกษาระดับประเทศพบว่า ผู้ปกครอง 1 ใน 3 จะไม่ให้บุตรหลานฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ เพราะข่าวลือที่แพร่สะพัด อีกทั้งไม่เชื่อว่าวัคซีนจะได้ผล ผลการศึกษาระบุว่า บริการสุขภาพปฐมภูมิมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเรื่องความสำคัญของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ข้อมูลของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐเผยว่า ฤดูไข้หวัดใหญ่ 2561-2562 มีผู้รับการฉีดวัคซีนเพียงร้อยละ 49.2 เท่านั้น แม้ประสิทธิภาพของวัคซีนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นกับสายพันธุ์เชื้อไวรัสที่ระบาดในชุมชนในเวลานั้น แต่ก็ช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยได้ปีละหลายล้านคน สมาคมกุมารเวชศาสตร์อเมริกันแนะนำให้เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปฉีดทุกคน
เอเอฟพีระบุว่า นอกจากข่าวลือเท็จแล้ว มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 แพร่ระบาดก็มีผลให้คนได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่น้อยลงเพราะแพทย์ออกตรวจเยี่ยมตามบ้านลดลง เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนตามคลิกนิก โบสถ์ หรือโรงเรียนที่ถูกระงับไป ขณะที่อัตราว่างงานสูงเพราะโรคโควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่มีประกันสุขภาพเพื่อรับวัคซีน.-สำนักข่าวไทย