สามีเรียกร้องคลินิกรับผิดชอบ ภรรยาดูดไขมันติดเชื้อดับ

กทม. 28 ส.ค. – สามีสาวศัลยกรรมดูดไขมันเสียชีวิต เรียกร้องคลินิกย่านพระราม 3 รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล และการเสียชีวิตของภรรยา พร้อมฝากเป็นอุทาหรณ์กับสาวๆ ที่คิดจะดูดไขมัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก


บรรยากาศที่ศาลา 4 วัดจันทร์ใน ซอยเจริญกรุง 107 มีการจัดพิธีรดน้ำศพ น.ส.ศรัญญา อายุ 30 ปี เสียชีวิตปริศนา ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและเพื่อน หลังไปทำศัลยกรรมดูดไขมันและ เสริมทรวงอกที่คลินิกศัลยกรรมเอกชนแห่งหนึ่งย่านช่องนนทรี จนสามีผู้เสียชีวิตโพสต์ข้อความระบุถึงความไม่รับผิดชอบของคลินิกดังกล่าวที่ศัลยกรรมดูดไขมันทำให้ภรรยาเสียชีวิต และครอบครัวยังต้องเสียค่ารักษาพยาบาลกว่า 1.5 ล้านบาท

นายพลชนะ จันทร์เกษม อายุ 29 ปี สามีเล่าว่า ภรรยาไปทำศัลยกรรมดูดไขมันที่คลินิกแห่งนี้ ในราคา 59,000 บาท เพราะอยากทำมานานแล้ว เนื่องจากภรรยามีต้นขาและแขนใหญ่ อยากใส่กางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์แล้วสวย ที่ผ่านมาเคยห้ามหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ใจอ่อนเพราะเห็นภรรยาพยายามเก็บเงิน หารายได้พิเศษเพื่อจะทำศัลยกรรม จึงให้บัตรเครดิตไปรูด เริ่มทำตั้งแต่เวลา 07.00 น. เสร็จสิ้นเวลา 15.00 น. วันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ภรรยาบ่นปวดแผลที่หน้าอกตลอดเวลา จนวันรุ่งขึ้นครบกำหนดไปล้างแผลที่คลินิก ภรรยายังคงมีอาการปวดแผล และอาเจียน ไข้ขึ้น เมื่อสอบถามทางคลินิกอ้างว่าเป็นอาการปกติต้องให้น้ำเกลือ จึงพากันไปกินข้าว เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก จากนั้นไม่ถึง 10 นาที คลินิกแจ้งว่าภรรยาอาการทรุด ต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ก่อนจะย้ายโรงพยาบาล เนื่องจากภรรยามีประกันสังคมอยู่ที่โรงพยาบาลเลิดสิน แต่รักษาอยู่ 2 วัน อาการยังไม่ดีขึ้น หัวหน้างานของตนและภรรยา เสนอตัวจะช่วยออกค่ารักษาให้ก่อน และให้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เบื้องต้นประเมินค่าใช้จ่าย 1.5 ล้านบาท แต่สุดท้ายภรรยาก็มาชีวิตเมื่อคืนนี้ ศพถูกส่งไปให้แพทย์โรงพยาบาลจุฬาผ่าชันสูตร ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าติดเชื้อในกระแสเลือด


นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้คลินิกดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล และการที่ทำให้ภรรยาต้องเสียชีวิต ทั้งที่ก่อนดูดไขมันได้ตรวจร่างกาย ยืนยันร่างกายแข็งแรง ครอบครัวต้องสูญเสียภรรยาและแม่ของลูกวัย 7 ขวบ ขณะที่ครอบครัวภรรยาก็ต้องสูญเสียลูกสาวที่เป็นเสาหลักหารายได้ จากนี้จะไปแจ้งดำเนินคดีที่ สน. บางโพงพาง และฝากเป็นอุทาหรณ์ถึงสาวๆ ที่คิดจะทำดูดไขมัน ให้คำนึงอันตรายที่อาจทำให้เสียชีวิต ให้ศึกษาหาข้อมูลให้รอบคอบ จะได้ไม่เกิดความสูญเสียเช่นครอบครัวของตน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง