อุดรธานี 20 ส.ค.-แม่พาลูกสาว 7 ขวบแจ้งจับพ่อแท้ๆ ทำอนาจารลูกสาวโชว์เพื่อนหลังดูคลิปโป๊จนเกิดอารมณ์
ตำรวจสภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากนางน้อย (นามสมมุติ) พร้อม ด.ญ.บี บุตรสาว นามสมมติ อายุ 7 ขวบ เข้าแจ้งความว่า ด.ญ.บี ถูกนายเคน นามสมมุติ พ่อแท้ๆ อายุ 38 ปี ราษฎร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี บังคับข่มขืนกระทำชำเราต่อหน้าเพื่อนเหตุเกิดเวลา 15.00-24.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม ในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ถนนอำเภอ เขตเทศบาลนครอุดรธานี
โดยนางน้อย ให้การว่า ตนอยู่กินกับนายเคนมาประมาณ 21 ปี มีลูกด้วยกัน 4 คน โดย ด.ญ.บี เป็นลูกคนสุดท้อง กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ตนและนายเคนมีอาชีพรับจ้าง นายเคนมักจะดื่มเหล้าประจำ เมาแล้วจะทำร้ายร่างกายตบตีตลอด กระทั่งเมื่อ 9 เดือนก่อน ตนได้ตัดสินใจแยกทางกับนายเคน โดยลูกคนที่ 1 และ 2 อาศัยอยู่กับตน ส่วนลูกคนที่ 3 และ ด.ญ.บี อาศัยอยู่กับยาย แต่ตนก็จะไปหาลูกประจำ ส่วนนายเคนก็ไปเช่าห้องอยู่ทำงานขับรถรับจ้างตามปกติ
เมื่อเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ยายอาบน้ำให้ ด.ญ.บี เพื่อแต่งตัวไปโรงเรียนยายเห็นรอยช้ำบริเวณต้นขาทั้งสองข้าง คล้ายกับรอยกดจนช้ำ จึงได้สอบถามหลานว่าเป็นรอยอะไร ด.ญ.บี ได้เล่าว่า เย็นวันที่ 15 สิงหาคม นายเคนได้มารับ ด.ญ.บีที่บ้านยายไปเล่นที่ห้องเช่าโดยยายไม่รู้ ซึ่งนายเคนพาเพื่อนมาตั้งวงดื่มเหล้ารวม 4 คน ขณะที่ ด.ญ.บี นอนดูทีวี พ่อเมาและได้เข้ามาจับขา ทั้งสองข้างอย่างแรง ก่อนใช้มือลูบที่อวัยวะเพศ แล้วก็ออกไปนั่งดื่มเหล้า และกลับมาอีกครั้ง โดยใช้ตะปูกดที่ต้นขาข้างหนึ่งก่อนแล้วเอามือปิดปากไม่ให้ร้อง และใช้นิ้วล่วงละเมิดทางเพศ ท่ามกลางเพื่อนทั้ง 4 คนมายืนดู จากนั้น ด.ญ.บี ร้องขอความช่วยเหลือ และให้พ่อหยุด และฉวยจังหวะที่พ่อตกใจ ก็หนีออกมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าของห้องเช่า แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ ด.ญ.บี จึงปั่นจักรยานกลับมาที่บ้าน จนกระทั่งยายมาเห็นรอยตะปูที่ต้นขาหลาน แล้วสอบถามเรื่องราวเกิดอะไรขึ้นยายจึงตัดสินใจเล่าเรื่องให้ตนฟัง ตนจึงพาลูกมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ นางน้อย ยังกล่าวว่า สาเหตุที่นายเคนกระทำกับลูกสาวน่าจะมาจากดื่มเหล้า เสพยา ดูคลิปโป๊แล้วเกิดอารมณ์ทางเพศจึงตัดสินใจพาลูกสาวมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพ่อจนถึงที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว ด.ญ.บี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และสอบสวนปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ เพื่อที่จะได้ไปนำตัวพ่อมาสอบปากคำ.-สำนักข่าวไทย