อว. 14 ส.ค.63 – รมว. อว. หารืออธิการมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ย้ำให้นักศึกษาจัดกิจกรรมชุมนุม แสดงออกทางการเมืองภายในมหาวิทยาลัยได้ แต่ห้ามพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. ประชุมหารือแนวทางการทำงานร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยในสังกัดทั่วประเทศ และคณะที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หรือ ทปอ. ที่ สำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม
ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวว่า กรณีที่นักศึกษาสถาบันการศึกษาหลายแห่ง มีเจตจำนงค์ต้องการแสดงออกทางการเมือง ในส่วนที่กระทรวง อว. ได้กำชับให้มหาวิทยาลัยในสังกัดทุกแห่ง เปิดกว้างให้นักศึกษาสามารถแสดงพลัง แสดงออกหรือปราศรัยทางการเมืองได้ตามปกติ ตามความเหมาะสม ไม่มีการสั่งห้ามหรือปิดกั้นแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบกติกาตามกฎหมายที่ให้ไว้สามารถแสดงความเห็นทางการเมือง ซึ่งหลายความเห็นเป็นแนวทางที่ดีที่รัฐบาลพร้อมรับฟังนำไปแก้ไขให้เกิดประโยชน์ได้ แต่ที่เน้นย้ำในการชุมนุมหรือเรียกร้องต่างๆ ห้ามก้าวล่วง จาบจ้วง ล่วงละเมิด ถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเด็ดขาด เนื่องจากเป็นสถาบันหลักของประเทศ เป็นเสาหลักความมั่นคงของบ้านเมือง เป็นที่เคารพรักของประชาชนทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอีกด้วย ซึ่งในสถานการณ์จริงในการชุมนุมอาจห้ามไม่ได้ทั้งหมด แต่คนที่ระบุถึงจะต้องรับผิดชอบตัวเอง
ส่วนในการดูแลผู้ชุมนุมแต่ละสถาบันนั้น จะอนุญาตให้สิทธิเฉพาะนักศึกษา และบุคลากรของแต่ละสถาบันเข้าร่วมเท่านั้น ไม่สามารถให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่คนของสถาบันการศึกษาเข้าร่วมชุมนุม เพื่อความเป็นระเบียบ และปลอดภัยในการคัดกรองการเข้าสถานที่ อีกทั้งการจัดการชุมนุมจะต้องมีมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพตามมาตรการศบค. ตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าพื้นที่ ตรวจอาวุธ และตรวจบัตรประจำตัวของนิสิตนักศึกษา และบุคลากรก่อนจึงจะได้รับอนุญาตเข้าชุมนุมทางการเมืองในแต่ละสถาบัน
ยืนยันว่าจะไม่มีการทำให้การชุมนุมจบโดยเร็ว หรือสลายการชุมนุม จะเปิดโอกาสอย่างเต็มที่หากทั้งหมดอยู่ในกติกาที่กฎหมายให้ไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับง่าให้มองนักศึกษาเป็นลูกหลาน เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ในข้อเรียกร้องต่าง ๆ สามารถแลกแปลี่ยนความเห็นกันได้ ในสิ่งที่สามารถทำได้ หรือเกิดประโยชน์ รัฐบาลก็พร้อมจะผลักดันสานต่อ .-สำนักข่าวไทย