รมว.อว.ฝากทุกฝ่ายร่วมมือดันไทยหลุดกับดักรายได้ปานกลาง

กรุงเทพฯ 1 เม.ย.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.)ฝากทุกฝ่ายต้องร่วมมือดันไทยหลุดกับดักรายได้ปานกลางอย่าเน้นแต่จีดีพีของประเทศต้องสูงแต่ต้องเน้นเติบโตมั่นคงแบบยั่งยืน มั่นใจอีก 7 ปีไทยจะส่งยานอวกาศไปรอบดวงจันทร์ได้เอง


นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการอว.กล่าวปาฐกถาพิเศษ การประชุมวิชาการระดับชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปีของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้าในหัวข้อ “ วิทยาศาสตร์และศิลปวิทยาการเพื่อขยับประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลาง “ และเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาทางวิชาการและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านการศึกษาวิจัยและนวัตกรรมแห่งการสถาปนาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ประจำปี 2564 ว่า กว่า 70 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในหลายด้าน โดยเฉพาะเป็นประเทศที่อยู่ในส่วนรายได้ปานกลางระดับบนที่นำเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันได้อย่างดี แต่การที่จะออกกับดักรายได้ปานกลางระดับบนได้และก้าวสู่ประเทศที่มีรายได้สูงจะต้องหนีกับดักรายได้ปานกลางดังกล่าวให้ได้ โดยคนไทยทั้งประเทศจะต้องร่วมมือเพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากรายได้ปานกลางเป็นรายได้สูงอย่างยั่งยืนในอนาคต

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะนำเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรมมาสร้างสรรค์เพื่อนำพาประเทศหลุดจากกับดักรายได้ปานกลาง เพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องเดินไปด้วยกัน โดยปัจจุบันคนไทยมีฝีมือในด้านแรงงานสูงไม่แพ้ต่างชาติ แต่ยังขาดการส่งเสริมที่ดี ดังนั้น ถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนจะต้องหันกลับมาพัฒนาเปลี่ยนแปลงประเทศไทยใหม่ โดยอย่ามุ่งเน้นและเชื่อมั่นเพียงแต่เศรษฐกิจของประเทศจะต้องเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 7-8 แต่ความเข้มแข็งของประเทศไม่มี จึงจะต้องปรับใหม่โดยจะต้องสร้างเศรษฐกิจในทุกด้านเติบโตแบบยั่งยืนและมั่นคงจะโตเพียงไม่มากแต่เศรษฐกิจของประเทศมีความแข็งแกร่งจะดีกว่า และเชื่อว่าคนไทยสามารถที่จะสร้างประเทศให้แข็งแกร่งด้วยการนำเอาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี่และนวัตกรรมมาสร้างสรรค์ให้คนไทยมีรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


ทั้งนี้ ช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมาในการเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการอว.ได้มีการพูดคุยกับหลายฝ่ายเห็นว่า ประเทศไทยสามารถที่จะหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางระดับบนไปสู่ประเทศทีมีรายได้ระดับสูงได้อย่างแน่นอน เพราะคนไทยมีคนเก่งอยู่มากและหลายสาขา แต่ยังขาดจุดศูนย์รวมและการส่งเสริมอย่างจริงจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมืออย่างจริงจังไม่เพียงประเทศจะหลุดพ้นกับดักปานกลางแต่ในอีก 7 ปีข้างหน้าประเทศไทยมีโอกาสสูงที่จะนำเอายานอวกาศขึ้นไปสำรวจในรอบดวงจันทร์ที่ห่างจากโลกมากกว่า 380,000 ล้านกิโลเมตรได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม