ผู้นำยูเครนเตรียมคุยกับ ‘ทรัมป์’ วันจันทร์หน้า

เคียฟ 16 ส.ค. – ผู้นำยูเครนเตรียมเดินทางไปพูดคุยกับผู้นำสหรัฐ หลังจากที่การเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำรัสเซีย เสร็จสิ้นลงโดยไร้ข้อตกลงใดๆ นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า เขาจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยจะหารือรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ซึ่งเซเลนสกีบอกว่าตัวเขาสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ ในการจัดประชุม 3 สามฝ่าย คือ สหรัฐ รัสเซีย และยูเครน ซึ่งทรัมป์เคยเปรยเอาไว้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นฝ่ายจัดการประชุม และการประชุมจะมีขึ้นเมื่อไร หลังการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่เมืองแองคอเรจ รัฐอะแลสกาของสหรัฐ เสร็จสิ้นลง ในระหว่างที่ทรัมป์กำลังเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตัน เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำยูเครนและผู้นำชาติพันธมิตรในยุโรป แต่ไม่มีการระบุว่าพูดคุยกันในเรื่องใดบ้าง ขณะที่ทางผู้นำยุโรปเตรียมจะออกแถลงการณ์ร่วมในวันนี้เกี่ยวกับการประชุมยอดทรัมป์-ปูติน ที่เพิ่งผ่านมา การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับปูติน มีขึ้นเมื่อคืนนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งใช้คุยกันเวลาร่วม 3 ชั่วโมง และจบลงโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ เกิดขึ้น แต่ทรัมป์บอกว่าการเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก และหลังการประชุมผู้นำทั้งสองก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วย แต่หลังจากนั้นทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์ทางช่องฟ็อกซ์นิวส์ระบุว่าในการเจรจาทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องกันในหลายประเด็น และในเร็วๆ นี้อาจจะมีการจัดประชุมระหว่างปูตินกับเซเลนสกี ซึ่งตัวเขาเองอาจจะเข้าร่วมด้วย ด้านนายปูตินไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องการพบปะกับนายเซเลนสกี จากการให้สัมภาษณ์นักข่าวก่อนการประชุม เพียงแต่บอกว่าหวังว่ายูเครนและพันธมิตรในยุโรปจะยอมรับผลการเจรจาระหว่างสหรัฐกับรัสเซียอย่างสร้างสรรค์ และไม่พยายามขัดขวางความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้น […]

Malaysia Prime Minister Anwar Ibrahim and Bangladesh Chief Advisor of government in press conference

หลายชาติรวมทั้งไทยจะส่งคณะไปเมียนมาเรื่องโรฮีนจา

ปุตราจายา 12 ส.ค.- นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซีย และหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งไทยจะส่งคณะผู้แทนร่วมไปยังเมียนมา เพื่อผลักดันเรื่องสันติภาพและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา เว็บไซต์สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานว่า นายอันวาร์แถลงข่าวขณะให้การต้อนรับนายมูฮัมหมัด ยูนุส หัวหน้าที่ปรึกษารัฐบาลบังกลาเทศที่มาเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 11-13 สิงหาคมว่า การทำให้เกิดสันติภาพและแก้ไขวิกฤตผู้ลี้ภัยในเมียนมาเป็นหนึ่งในสิ่งที่มาเลเซียให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการสนับสนุนบังกลาเทศ ซึ่งได้แบกรับภาระการดูแลผู้พลัดถิ่นจำนวนมากมาหลายปี การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยทันทีจะต้องขยายให้ครอบคลุมถึงผู้ลี้ภัยและผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะเดียวกันจะต้องสร้างหลักประกันว่าความพยายามแก้ไขวิกฤตในเมียนมายังคงเป็นภารกิจสำคัญของความร่วมมือในภูมิภาค นายอันวาร์ในฐานะที่มาเลเซียเป็นประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนกล่าวด้วยว่า นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียจะจัดตั้งทีมร่วมอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ไปเยือนเมียนมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการสร้างสันติภาพ ขณะที่การใช้ความโหดร้ายกับชนกลุ่มน้อยบางกลุ่มและประชาชนชาวเมียนมาจะสามารถแก้ไขได้อย่างฉันมิตร  ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียกล่าวว่า จะนำคณะผู้แทนที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีต่างประเทศจากไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียไปเมียนมาในวันที่ 19 กันยายน เพื่อประเมินสถานการณ์ล่าสุดในเมียนมาภายใต้รัฐบาลใหม่ หลังการยกเลิกรัฐบาลทหารและการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สหประชาชาติระบุว่า ความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นและการใช้ความรุนแรงมุ่งเป้าหมายไปที่ชาวโรฮีนจา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา ได้บีบให้ชาวโรฮีนจาอพยพหนีไปยังบังกลาเทศประมาณ 150,000 คน ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา.-814.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนระบุจะไม่ยอมยกดินแดนให้ผู้รุกราน

เคียฟ 8 ส.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวว่าชาวยูเครนจะไม่ยอมยกดินแดนของตนให้แก่ผู้รุกราน และได้เตือนถึงผลลัพธ์ของการเจรจาสันติภาพระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ที่ไม่มีการมีส่วนร่วมของยูเครน นายเซเลนสกีกล่าวถึงการเตรียมการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่รัฐอะแลสกา ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ว่านายทรัมป์ประกาศเตรียมการสำหรับการประชุมกับนายปูติน ที่รัฐอะแลสกา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากจุดเกิดสงครามที่กำลังลุกลามบนแผ่นดินของยูเครนอย่างมาก และสงครามนี้ไม่สามารถยุติได้หากไม่มียูเครเข้าร่วมในการเจรจาด้วย นายเซเลนสกีเน้นย้ำว่ายูเครนจะไม่ยอมให้รัสเซียได้รางวัลจากสิ่งที่ได้กระทำลงไป และได้อ้างอิงถึงรัฐธรรมนูญของยูเครนที่ยืนยันถึงอธิปไตยเหนือดินแดน ประชาชนชาวยูเครนสมควรได้รับสันติภาพ แต่พันธมิตรทุกฝ่ายต้องเข้าใจว่าสันติภาพที่มีศักดิ์ศรีคืออะไร คำตอบสำหรับคำถามเรื่องดินแดนของยูเครนมีอยู่แล้วในรัฐธรรมนูญของยูเครน ไม่มีใครจะเบี่ยงเบนจากหลักการนี้ได้ และจะไม่มีใครสามารถทำได้ ชาวยูเครนจะไม่มอบดินแดนของตนให้แก่ผู้รุกราน เขายังกล่าวเสริมว่าสงครามนี้จะต้องถูกยุติลงโดยรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นสงครามและเป็นผู้ทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไป แม้จะแสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์และประเทศพันธมิตรเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน แต่นายเซเลนสกีได้ย้ำเตือนว่าการตัดสินใจใดๆ ที่ขัดต่อยูเครนหรือทำโดยที่ยูเครนไม่มีส่วนร่วม จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ประกาศข้อตกลงสันติภาพอาเซอร์ไบจาน-อาร์เมเนีย

วอชิงตัน 9 ส.ค. – อาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนีย ลงนามในข้อตกลงสันติภาพที่สหรัฐเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่ทำเนียบขาว ซึ่งข้อตกลงนี้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคีหลังจากความขัดแย้งที่ยาวนานหลายทศวรรษ ข้อตกลงสันติภาพระหว่างสองคู่ปรปักษ์ในภูมิภาคคอเคซัสใต้ครั้งนี้ ซึ่งหากสามารถคงอยู่ได้ระยะยาว จะถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของรัฐบาลทรัมป์ และอาจสร้างความไม่พอใจให้แก่รัสเซีย ซึ่งมองว่าภูมิภาคนี้อยู่ในขอบเขตอิทธิพลของตน นายทรัมป์กล่าวในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพที่ทำเนียบขาวว่า เป็นเวลานานถึง 35 ปี ที่ทั้งสองประเทศนี้สู้รบกัน และตอนนี้พวกได้กลายเป็นเพื่อนกันแล้ว และจะเป็นเพื่อนกันไปอีกนาน ในพิธีนี้มีประธานาธิบดีอิลฮัม อะลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน และนายกรัฐมนตรีนิโคล พาชินยัน ของอาร์เมเนีย นั่งขนาบข้างผู้นำสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวว่าทั้งสองประเทศได้ให้คำมั่นว่าจะหยุดการสู้รบ เปิดความสัมพันธ์ทางการทูต และเคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงสิทธิ์ในการพัฒนาเฉพาะสำหรับสหรัฐในการใช้เส้นทางคมนาคมเชิงยุทธศาสตร์ผ่านภูมิภาคคอเคซัสใต้ ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกพลังงานและทรัพยากรอื่นๆ ได้มากขึ้น นายทรัมป์กล่าวด้วยว่าสหรัฐได้ลงนามในข้อตกลงแยกกับแต่ละประเทศเพื่อขยายความร่วมมือด้านพลังงาน การค้า และเทคโนโลยี รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ ในขณะเดียวกัน ข้อจำกัดเกี่ยวกับความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างอาเซอร์ไบจานและสหรัฐก็ถูกยกเลิกด้วย อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานมีความขัดแย้งกันมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 เมื่อนาโกโน-คาราบัค ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เป็นภูเขาของอาเซอร์ไบจานที่มีชาวอาร์เมเนียอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ได้แยกตัวออกจากอาเซอร์ไบจานด้วยการสนับสนุนจากอาร์เมเนีย ต่อมาในปี 2023 อาเซอร์ไบจานได้กลับเข้าควบคุมภูมิภาคนี้ได้อีกครั้งอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ชาวอาร์เมเนียเกือบทั้งหมด 100,000 คนในดินแดนแห่งนี้ต้องหนีไปยังอาร์เมเนีย ผู้นำทั้งสองต่างชื่นชมทรัมป์ที่ช่วยยุติความขัดแย้ง และกล่าวว่าจะเสนอชื่อเขาเข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ นายทรัมป์ได้พยายามนำเสนอตัวเองในฐานะผู้สร้างสันติภาพระดับโลกในช่วงหลายเดือนแรกของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของเขา ทำเนียบขาวให้เครดิตเขาในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย […]

‘ฮุน มาเนต’ เสนอ ‘ทรัมป์’ ชิงโนเบลสันติภาพ

พนมเปญ 8 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์เพื่อเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หนังสือของนายฮุน มาเน็ต ลงวันที่ 7 สิงหาคม มีเนื้อหาว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และ 47 ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยกย่องผลงานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการส่งเสริมสันติภาพโลก การเสนอชื่อครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความซาบซึ้งของตัวเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความกตัญญูอย่างสุดซึ้งของประชาชนชาวกัมพูชาสำหรับบทบาทสำคัญยิ่งของนายทรัมป์ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ความเป็นผู้นำอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อขัดแย้งและป้องกันสงครามหายนะผ่านการเจรจาต่อรองที่มีวิสัยทัศน์และสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นล่าสุดในบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกัมพูชาและไทย การแทรกแซงอย่างทันท่วงทีนี้ ซึ่งช่วยป้องกันความขัดแย้งที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก และปูทางไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพระหว่างสองประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในการคลี่คลายความตึงเครียดในภูมิภาคที่ผันผวนที่สุดของโลก การแสวงหาสันติภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการทูตของเขาสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอัลเฟรด โนเบล อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการยกย่องเชิดชูผู้ที่มีคุณูปการอันโดดเด่นต่อภราดรภาพระหว่างประเทศและการส่งเสริมสันติภาพ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขาหวังว่าการเสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะได้รับการพิจารณาเป็นอย่างดี.-816.-สำนักข่าวไทย

Hiroshima Dome

TNA News-Now-Next: ระเบิดนิวเคลียร์ บทเรียน 80 ปีที่โลกรู้แต่ไม่เรียน

ฮิโรชิมะ 6 ส.ค.- วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน โลกได้เห็นการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ขณะนั้นเรียกว่าระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรกที่เมืองฮิโรชิมะของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายแบบทำลายล้าง คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่ดูเหมือนว่า บทเรียนนี้ไม่ได้ทำให้หลายประเทศหวั่นเกรงแต่อย่างใด ซ้ำยังแข่งขันกันสั่งสมและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ท้าทายกฏระเบียบโลกที่เป็นเหมือนเสือกระดาษ อาวุธสงครามครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส ทรูแมนของสหรัฐได้สั่งให้นำเครื่องบินไปทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มเมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิ โจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม 2488 ด้วยระเบิดชื่อลิตเติลบอย (Little Boy) น้ำหนัก 4,400 กิโลกรัม แรงระเบิด 13-16 กิโลตัน และระเบิดชื่อแฟตบอย (Fat Boy) น้ำหนัก 4,670 กิโลกรัม แรงระเบิด 21 กิโลตัน ข้อมูลจากเว็บไซต์คณะกรรมการรณรงค์เพื่อยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์หรือไอแคน (ICAN) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2560 ระบุว่า นับจนถึงสิ้นปี 2488 เมืองฮิโรชิมะมีผู้เสียชีวิตราว 140,000 คน รวมถึงผู้เสียชีวิตจากรังสีนิวเคลียร์ ส่วนเมืองนางาซากิมีผู้เสียชีวิตราว […]

Peace activists commemorate 80th anniversary of atomic bombing in Hiroshima

ญี่ปุ่นรำลึก 80 ปี นิวเคลียร์ทำลายล้างฮิโรชิมะ

ฮิโรชิมะ 6 ส.ค.- กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพรวมตัวกันที่ริมฝั่งแม่น้ำโมโตยาสุในเมืองฮิโรชิมะ ที่อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น และร้องเพลงเกี่ยวกับการต่อต้านสงคราม เนื่องในวันครบรอบ 80 ปี ของวันที่สหรัฐทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทำลายล้างเมืองนี้ กลุ่มนักเคลื่อนไหวยืนโค้งคำนับและสงบนิ่งเมื่อเวลา 08.15 น. ตรงกับเวลาที่สหรัฐทิ้งระเบิดนิวเคลียร์หรือระเบิดปรมาณูชื่อลิตเติลบอย (Little Boy) น้ำหนัก 4,400 กิโลกรัม แรงระเบิด 13-16 กิโลตัน ถล่มเมืองฮิโรชิมะในวันที่ 6 สิงหาคม 2488 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ทำสงครามเป็นครั้งแรกของโลก ข้อมูลจากเว็บไซต์เมืองฮิโรชิมะระบุว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมีประชากรอยู่ราว 350,000 คน จนถึงขณะนี้ยังคงไม่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่ชัดถูกต้อง แต่ประเมินว่า นับจนถึงสิ้นปี 2488 มีผู้เสียชีวิตราว 140,000 คน รวมถึงผู้เสียชีวิตจากรังสีนิวเคลียร์ จากนั้นอีก 3 วันสหรัฐได้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลูกที่ 2 ชื่อแฟตบอย (Fat Boy) น้ำหนัก 4,670 กิโลกรัม แรงระเบิด 21 กิโลตัน ถล่มเมืองนางาซากิ […]

TNA News-Now-Next: โดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสคว้าโนเบลสาขาสันติภาพจริงหรือ?

วอชิงตัน 9 ก.ค. – ประเด็นร้อนที่หลายคนให้ความสนใจในขณะนี้คือความเป็นไปได้ที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งเป็นรางวัลระดับนานาชาติอันทรงเกียรติสูงสุดที่มอบให้กับบุคคลหรือองค์กรที่ทำคุณประโยชน์สูงสุดในการ “ส่งเสริมมิตรภาพระหว่างชาติ” เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลได้เสนอชื่อประธานาธิบดีทรัมป์เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยในจดหมายถึงคณะกรรมการโนเบลที่เขานำออกเผยแพร่ทางออนไลน์นั้น นายเนทันยาฮูกล่าวว่านายทรัมป์ได้ “แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงและตั้งใจเป็นพิเศษในการส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพทั่วโลก” ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ ซึ่งพยายามเป็นคนกลางในการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ก็เคยได้รับการเสนอชื่อมาแล้ว และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปากีสถานระบุว่า จะเสนอชื่อนายทรัมป์เข้าชิงรางวัลนี้จากผลงานในการช่วยแก้ไขความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน อย่างไรก็ตาม การเสนอชื่อทรัมป์ของนายเนทันยาฮูได้สร้างความสงสัยเคลือบแคลงใจในคนบางกลุ่ม รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีสวีเดน คาร์ล บิลด์ท ซึ่งกล่าวในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า นายเนทันยาฮูกำลังพยายามเอาใจนายทรัมป์ หากนายทรัมป์ได้รับรางวัลนี้ เขาจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ห้าที่ได้รับรางวัลทรงเกียรตินี้ ต่อจากนายธีโอดอร์ รูสเวลต์, นายวูดโรว์ วิลสัน, นายจิมมี่ คาร์เตอร์ และนายบารัค โอบามา ขั้นตอนของการมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ใครมีสิทธิ์ได้รับรางวัล? ตามพินัยกรรมของอัลเฟรด โนเบล นักอุตสาหกรรมชาวสวีเดนผู้ประดิษฐ์ระเบิดไดนาไมต์ รางวัลนี้ควรมอบให้กับบุคคล “ผู้ได้ทำคุณประโยชน์มากที่สุดหรือดีที่สุดเพื่อส่งเสริมมิตรภาพระหว่างชาติ การยกเลิกหรือลดขนาดกองทัพที่ประจำการ […]

Netanyahu says Trump's decision to strike Iran will 'change history'

อิสราเอลยกย่อง “ทรัมป์” ประวัติศาสตร์จะจารึก

เยรูซาเลม 22 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลกล่าวยกย่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่สั่งโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่านว่า จะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ สำนักสารนิเทศ สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเผยแพร่คลิปนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูแถลงความยาว 1 นาที 25 วินาทีในวันนี้ว่า ขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์ การตัดสินใจอย่างกล้าหาญด้วยการใช้อำนาจอันยอดเยี่ยมและชอบธรรมของสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาปฏิบัติการสิงโตผงาด (Operation Rising Lion) ของอิสราเอลได้ทำในสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง แต่การโจมตีของสหรัฐเมื่อคืนวันเสาร์ได้ทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีประเทศใดในโลกสามารถเทียบได้อย่างแท้จริง ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทำในสิ่งที่เป็นการไม่ยอมรับรัฐบาลและอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลก และได้สร้างหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ที่จะช่วยนำพาภูมิภาคตะวันออกกลางและนอกภูมิภาคไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองและสันติ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และเขาพูดอยู่เสมอเรื่องการสร้างสันติภาพด้วยความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงจะมีสันติภาพได้.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump addresses the nation after US strikes on Iran

“ทรัมป์” แถลงเรื่องโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์อิหร่าน

วอชิงตัน 22 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแถลงเรื่องสหรัฐโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งและสามารถทำลายได้อย่างสิ้นซาก ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงที่ทำเนียบขาวก่อนเวลา 22.00 น.วันเสาร์ตามเวลากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง โดยมีรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และนายปีเตอร์เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมยืนอยู่ด้านหลัง นายทรัมป์ใช้เวลาในการแถลงนานเพียง 4 นาทีและไม่เปิดให้มีการซักถามว่า กองทัพสหรัฐได้โจมตีด้วยความแม่นยำครั้งใหญ่ต่อที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านประกอบด้วยฟอร์โดว์ อิสฟาฮาน และนาทันซ์ที่ทุกคนได้ยินชื่อมานานหลายปีว่ามีความสามารถทำลายล้างอย่างน่ากลัว วัตถุประสงค์ของสหรัฐ คือ การทำลายศักยภาพในการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่าน และหยุดยั้งภัยคุกคามนิวเคลียร์ของประเทศที่สนับสุนนการก่อการร้ายอันดับหนึ่งของโลก เขาสามารถแจ้งต่อโลกได้ว่า กองทัพสหรัฐประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการโจมตีสถานที่เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมสำคัญของอิหร่าน ด้วยการทำลายอย่างราบคาบและสิ้นซาก ผู้นำสหรัฐยื่นคำขาดว่า อิหร่านจะต้องสร้างสันติภาพในเวลานี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกโจมตีหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม  เขากล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่ทำงานเป็นทีมกับสหรัฐอย่างดียิ่ง ขอบคุณกองทัพอิสราเอลและทหารสหรัฐที่เข้าร่วมในภารกิจนี้ พร้อมกับย้ำว่ายังมีเป้าหมายในอิหร่านอีกหลายแห่งที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งจะถูกจัดการอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาทีหากไม่เกิดสันติภาพโดยเร็ว.-814.-สำนักข่าวไทย

President Lai's address on 1st anniversary of taking office

ผู้นำไต้หวันยื่นไมตรีจีนวันดำรงตำแหน่งครบปี

ไทเป 20 พ.ค.- ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อของไต้หวัน ซึ่งดำรงตำแหน่งครบ 1 ปีในวันนี้ กล่าวว่า ต้องการสันติภาพและการเจรจากับจีน แต่ก็ต้องเสริมสร้างการป้องกันไต้หวันต่อไป

U.S. President Donald Trump and Russian President Vladimir Putin met in person for the first time on July 7, 2017, on the sidelines of the G20 summit in Hamburg

ทรัมป์จะคุยปูตินวันนี้เรื่องยุติสงครามยูเครน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะพูดคุยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียในวันนี้ เรื่องสันติภาพในยูเครน ด้านผู้นำในยุโรปเรียกร้องให้รัสเซียยอมรับข้อเสนอหยุดยิงโดยทันที

1 2 3 14
...