กพท.จ่อเข้มสายการบินผ่านไทยผู้โดยสารต้องมีใบตรวจโรค

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กพท.เตรียมออกประกาศยกระดับเข้มข้นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ-จัดพิเศษขนผู้โดยสารต่างชาติ แม้แค่ผ่านไทยสายการบินต้องกำกับให้ผู้โดยสารทุกคนมีใบตรวจโรคปลอดโควิด-19 ก่อนซื้อตั๋วโดยสาร ป้องสายการบินสัญชาติไทยได้รับผลกระทบถูกประเทศปลายทางแบน


นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า วันนี้จะลงนามในคำสั่ง ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฎิบัติของสายการบินระหว่างประเทศ โดยในเนื้อหาของประกาศ กพท.ฉบับใหม่จะเพิ่มข้อกำหนดกรณีที่สายการบินของประเทศไทย และหรือสายการบินที่ทำการบินผ่านประเทศไทย และลงจอดเติมน้ำมัน แวะพัก แม้ผู้โดยสารจะไม่ได้ออกมานอกเครื่อง ทางสายการบินจะต้องกำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนที่โดยสารมาในเครื่องบินลำดังกล่าว จะต้องมีใบรับรองผลการตรวจปลอดเชื้อโรคโควิด-19 ทุกคนก่อนที่จะซื้อตั๋วโดยสารมากับเครื่องได้

ทั้งนี้ การออกประกาศดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันสายการบินที่มีสัญชาติไทย และทำการบินแบบเช่าเหมาลำ(ชาร์ทเตอร์ไฟทล์) ทำการบินจากประเทศที่ 1 ไปยังประเทศจุดหมายปลาย หรืออาจจะแวะมาจอดเติมน้ำมันที่ประเทศไทย ไปยังจุดหมายปลายทาง และเมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ทางปลายทางกลับตรวจพบว่ามีผู้โดยสารในลำนั้น ๆ มีเชื้อโควิด-19 สายการบินดังกล่าวจะถูกขึ้นบัญชีดำทันที ซึ่งกรณีนี้มีตัวอย่างมาแล้วจากกรณีที่กรมการบินพลเรือนของประเทศจีน หรือ CAAC ระงับการทำการบินของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เส้นทางบินจากมาเลเซีย-มะนิลา-ไทย-เทียนจิน และ สายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ เส้นทางจาการ์ตา-ดอนเมือง-กวางโจว รับผู้โดยสารคนจีน จากประเทศอินโดนีเซียไปกวางโจว จีน โดยทั้ง 2 สายการบินทำการบินแบบเช่าเหมา 


นายจุฬา กล่าวต่อว่า จากกรณีปลายทางเป็นประเทศจีนมีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารก่อนลงเครื่องและพบผู้โดยสารมีเชื้อโควิดนั้น ทางระเบียบข้อบังคับของจีนกำหนดว่า เครื่องบิน 1 ลำ หากตรวจผู้โดยสารพบมีติดเชื้อโควิดต่ำกว่า 10 คน สายการบินนั้นจะถูกระงับการบินเข้าประเทศทันที 1  สัปดาห์ แต่หากในเครื่อง 1 ลำ ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 10 คน จะถูกระงับการทำการบินเข้าประเทศทันที 4 สัปดาห์ ซึ่งการที่สายการบินใด ๆ ที่ทำการบินระหว่างประเทศช่วงนี้ส่วนมากจะเป็นสายการบินที่ถูกว่าจ้างให้ไปรับคนในประเทศนั้นกลับมายังประเทศตัวเอง แบบเช่าเหมาลำ และเครื่องบินดังกล่าวจะต้องมีสิทธิในการทำเส้นทางบินนั้นๆอยู่ก่อนแล้ว จึงจะสามารถทำการบินได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง