กพท.คาดเที่ยวบินระหว่างประเทศจะเริ่มกลับมาให้บริการ ก.ย.63

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. –  กพท.ถกสายการบิน – สนามบิน เตรียมความพร้อมให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ คาดกลับมาบิน ก.ย.นี้  ชี้แม้ไทยเปิดน่านฟ้ายังมีปัจจัยจำนวนผู้โดยสารและมาตรการของประเทศปลายทางเข้ามากระทบการตัดสินใจของสายการบิน 



นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสายการบินของไทยและต่างประเทศ ผู้ประกอบการสนามบิน ผู้แทนจาก สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และผู้แทนจากคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินประเทศไทย (AOC) เพื่อชี้แจงข้อกำหนดและเงื่อนไขการเดินอากาศใหม่ ที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และ IATA กำหนดภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้สายการบินและผู้ประกอบการสนามบินได้รับทราบถึงมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน หากรัฐบาล หรือ ศบค.มีการผ่อนปรนให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ และ กพท.ประกาศเปิดน่านฟ้าให้ทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศได้ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน 


ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดในการยกเลิกการเว้นที่นั่งภายในเครื่องบิน , การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์กรองอากาศและระบบหมุนเวียนอากาศภายในเครื่องบินให้เหมาะสม , ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง , ห้ามเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มในเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง, การจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มจะต้องมีการปิดผนึกแพคเกจอย่างเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดในการกันพื้นที่นั่งแยกไว้รองรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยออกจากผู้โดยสารปกติ โดยสายการบินจะต้องประเมินความเสี่ยงของเส้นทางที่จะไป หากเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง ถือว่าความเสี่ยงต่ำ จะกันพื้นที่ไว้หรือไม่ก็ได้

ส่วนการเปิดน่านฟ้าให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศต้องอยู่ภายใต้การตัดสินใจของ ศบค. และรัฐบาล เบื้องต้นมองว่านักธุรกิจมีความเสี่ยงน้อยกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากแต่ละบริษัทจะมีมาตรการคัดกรองและดูแลสุขภาพของผู้ที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศอยู่แล้วและสามารถตรวจสอบได้


อย่างไรก็ตาม จากการหารือวันนี้สายการบินต่าง ๆ ยังไม่มีการส่งสัญญาณว่าจะเริ่มกลับมาบินเส้นทางระหว่างประเทศ เนื่องจากข้อกำหนดการปิดน่านฟ้าของ กพท.ยังมีผลบังคับใช้ถึง 30 มิถุนายนนี้ โดยส่วนใหญ่ยังต้องการทราบแนวทางและมาตรการในทางปฏิบัติที่ชัดเจนจากภาครัฐ รวมถึงขั้นตอนที่ผู้โดยสารต้องปฏิบัติหากต้องการเดินทางไปต่างประเทศ และมาตรการของประเทศปลายทาง เพื่อประเมินสถานการณ์และความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะกลับมาเปิดบินอีกครั้งเมื่อไหร่ ซึ่งขณะนี้สายการบินยังไม่สามารถประเมินปริมาณความต้องการของผู้โดยสารได้ และอาจต้องรอดูสถานการณ์จนถึงสิ้นเดือนนี้ เพื่อไม่ให้การกลับมาบินอีกครั้งทำให้ต้องประสบภาวะขาดทุน หรือไม่คุ้มทุน

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ IATA ที่ทำการสำรวจข้อมูลจาก 122 สายการบินทั่วโลก พบว่าการทำการบินแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารบนเครื่องบิน (Load Factor) ไม่น้อยกว่า 77% จึงจะคุ้มทุน หากจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่านั้น อาจเสี่ยงกับการขาดทุนได้

ผอ.กพท. ยังคาดการณ์ว่าปีนี้จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางทางอากาศในส่วนของประเทศไทยจะหายไปถึง 70% และเหลือเดินทาง 30% เท่านั้น เกือบทั้งหมดเป็นเส้นทางภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการบินในเส้นทางระหว่างประเทศจะเริ่มกลับมาได้ในช่วงเดือนกันยายน 2563 

ส่วนภาพรวมการให้บริการของท่าอากาศยานสำคัญขณะนี้ เรืออากาศโทสัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ระบุว่า หลังจากการปลดล็อกเส้นทางบินภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งวันดังกล่าวท่าอากาศยานดอนเมืองมีเที่ยวบินให้บริการเฉลี่ยวันละ 45 เที่ยวบิน ผู้โดยสารประมาณ 3,000 คน แต่หลังจากท่าอากาศยานปลายทางภายในประเทศต่าง ๆ ทยอยเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบันนี้ท่าอากาศยานดอนเมืองมีเที่ยวบินอยู่ที่ 150 เที่ยวบินต่อวัน มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยต่อวัน 13,000 คน และหากสถานการณ์การเดินทางภายในประเทศ หลังจากพบว่าไม่มีผู้ติดเชื้อใหม่เข้าวันที่ 21 แล้ว (ไม่รวมผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ) ก็จะทำให้สถานการณ์การเดินทางโดยอากาศยานภายในประเทศเกิดความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยยอมรับว่าสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศณขณะนี้ยังคงมีความจำเป็นต้องหยุดให้บริการ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด ระลอกใหม่

ขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากการปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศตามประกาศของ กพท. โดยเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิผู้โดยสารลดลงมากกว่าร้อยละ 95 เหลือเพียงผู้โดยสารเดินทางวันละกว่า 3,000 คนเท่านั้น จนกระทั่งล่าสุดสายการบินไทยสมายล์กลับมาทำการบินแล้ว 9 เส้นทางบิน 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบินไทยสมายล์ ไทยเวียตเจ็ท และบางกอกแอร์เวย์สบินให้บริการ

นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า เดือนมิถุนายนนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินเฉลี่ยต่อวัน สำหรับเส้นทางบินในประเทศ 53 เที่ยวบิน มีคนใช้บริการเพียงกว่าวันละ 3,699 คน ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งยังมีเครื่องบินพิเศษรับส่งผู้โดยสารจากประเทศต่าง ๆ กลับมาประเทศไทย และจากประเทศไทยไปประเทศปลายทางอื่น ๆ รวมทั้งเที่ยวบินสินค้าภายในเดือนมิถุนายน 2563 อยู่ที่วันละ 106 เที่ยวบิน ผู้โดยสารที่เหลืออยู่ที่ 1,432 คนต่อวัน เนื่องจากปัจจุบันแม้จะมีการคลายล็อกแต่คงต้องรอสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง คาดว่าคนจะกลับมาใช้บริการสายการบินอีกครั้ง โดยยอมรับว่าการเปิดให้บริการท่าอากาศยานภูเก็ตก็จะมีส่วนสำคัญแน่นอน

ส่วนอัพเดทการเปิดให้บริการของท่าอากาศยานทั่วประเทศขณะนี้ได้เปิดทำการบินหมดแล้ว ทั้งท่าอากาศยานในสังกัดของกรมท่าอากาศยาน 28 แห่ง และท่าอากาศยานในสังกัดของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย โดยการประกาศเปิดท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมาถือว่าขณะนี้ท่าอากาศยานทั่วประเทศได้เปิดให้สายการบินทำการบินจนครบหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]