อยุธยา 27 ก.ย. – นายกฯ ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม ย้ำรัฐบาลทำงานเป็นทีม แม้มาจากคนละพรรค เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหายั่งยืน เร่งรัดสร้างคลองระบายน้ำบางบาล-บางไทร เสร็จปี 69 เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะลงพื้นที่ อ.บางบาล พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันเจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, นายทรงศักดิ์ ทองศรี, นายศักดา วิเชียรศรี, นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยมีนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยานางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต 1 จ.พระนครศรีอยุธยา มาร่วมด้วย
ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลงมาร์ช อสม. ต้อนรับนายกรัฐมนตรี และตะโกนว่า ” เรารักนายกฯ” และถ่ายรูปเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง ก่อนจะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา
ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะหรือแก้มลิง จึงขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยา เพื่อบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้การช่วยเหลือ กรณีผู้ประสบเขตภัยพิบัติให้เหมาะสมกับสภาพของความเสียหาย ตลอดจนกำหนดกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และต้องการให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้การบริหารจัดการน้ำมากระทบหรือให้เกิดปัญหาอุทกภัยซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ทบทวน 9 แผนงานโครงการลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ของกรมชลประทาน
ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีว่า ที่ได้มาพบปะกับพวกตนและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เมื่อมาพบ อสม. เหมือนเจอแฟนเก่า ร้องเพลงต้อนรับให้ฟัง วันนี้มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าตนสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนพระนครศรีอยุธยา ในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมอยู่บ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีทุกคนมีก็คือประโยชน์สูงสุดของประชาชน เพราะฉะนั้นเราจะทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อรับใช้ประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เดือดร้อนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่า จ.พระนครศรีอยุธยา แห่งนี้มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก เริ่มจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทำให้ระบบการระบายน้ำ ระบายลงสู่ท้องทะเลได้ยาก และแม่น้ำเจ้าพระยามีลักษณะที่เป็นคอขวด ทำให้การไหลระบายน้ำช้าลง ส่งผลให้มีการของน้ำล้นตลิ่งขึ้นมาท่วมพื้นที่ของประชาชน ซึ่งเราพยายามสู้กับธรรมชาติมาโดยตลอด และพยายามคิดที่จะให้มีโครงการแผนงานบรรเทาการเกิดอุทกภัยให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด
นอกจากเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง รัฐบาลก็จะใช้ สทนช. ที่จะต้องคอยเป็นผู้กำหนดนโยบายต่างๆ ในการจัดการบริหารสถานการณ์น้ำท่วม เห็นอยู่ตรงนี้เป็นคนของประชาชน นายสุรศักดิ์ ลูกชาย นายก อบจ.ของพวกท่าน วันนี้เขาได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ดูแลการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย และกำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง นำมาใช้ลดภาวะภัยธรรมชาติ
ในระหว่างขึ้นเวทีแนะนำรัฐมนตรีและ สส. นายอนุทิน ยังได้เรียกนายทวีวงศ์ โตทวิวงศ์ หรือ สส.เต้ พรรคประชาชน ขึ้นมาบนเวที พร้อมกับกล่าวว่า สส.เขตนี้อยู่พรรคประชาชน เป็นคนรุ่นใหม่ ประชาชนไม่ต้องกังวล แม้ว่าจะคนละพรรคกัน แต่เขาก็โหวตให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี เท่ากับว่าประชาชนทุกคนให้ฉันทานุมัติให้ตนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในเมื่อประชาชนมีความทุกข์ยาก ไม่ว่าจะเลือกใครเป็น สส.ก็ตาม นายกรัฐมนตรี รัฐบาล มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้กับประชาชนทุกคนโดยทันที ก่อนจะกล่าวแซวว่า สส.อยุธยา ทำไมไม่ขึ้นมาเดี๋ยวก็สอบตกทั้งหมดหรอก พร้อมแนะนำ สส.ในพื้นที่ และรัฐมนตรี รวมไปถึง นายก อบจ. ที่ร่วมคณะมาด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เห็นไหมว่าทีมงานของพวกตนใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีความพร้อม วันนี้เรามาเป็นรัฐบาลร่วมกันแล้ว ปัญหาของประชาชน หากถามว่าพวกตนอยากได้ สส.ไหมล่ะ ตนจะได้ไหม อยากได้ ตนก็ต้องมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ เชื่อใจว่าประชาชนเลือกไปที่ทำงานอย่างเต็มที่ รับทราบความทุกข์ยากของพวกท่าน มาหาวิธีแก้ไขปัญหา
นายอนุทิน กล่าวว่า กรมปกครองส่วนท้องถิ่น เรามีงบประมาณฉุกเฉินที่ผู้บริหารสามารถเบิกจ่ายได้ในรูปแบบของงบฉุกเฉิน ไม่ต้องไปกังวล ถ้าใช้เพื่อประโยชน์บรรเทาความทุกข์ของประชาชนแล้ว ตนให้ความมั่นใจว่างบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจะต้องตกถึงประชาชน 100% ไม่มีตกหล่นไปไหน จึงขอให้ทางผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับทราบถึงงบประมาณที่สามารถจะช่วยประชาชนเหล่านี้ด้วย อย่าไปเกรงกลัว ที่ตนได้รับทราบมาหลายท่านกลัวว่าคนจะมาตรวจสอบ พอกลัวว่าคนจะมาตรวจสอบก็ไม่กล้าใช้ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องมีหน้าที่ที่ต้องชี้แนวทางให้ทำการใช้งบประมาณฉุกเฉินเหล่านี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที
“ตอนก่อนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็น มท.1 เข้าใจในเรื่องของความเร่งด่วนและความเดือดร้อนของประชาชน ตอนนั้นเราก็เร่ง แต่คนอนุมัติจ่ายก็เป็นอีกคน เรื่องของการช่วยเหลือหรืออนุมัติงบกลางมาช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยทั่วประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ชื่ออนุทิน ก็จะทำเรื่องเสนอให้นายกรัฐมนตรี คือชื่ออนุทินอนุมัติ เพราะฉะนั้นขั้นตอนจะถูกลดลงมาขอเพียงอย่างเดียว ข้าราชการตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด ไปจนถึงระดับกรมกระทรวง ขอให้พิจารณาอย่างรวดเร็ว ในคณะรัฐมนตรีถ้าเป็นเรื่องของประชาชนแล้ว รัฐมนตรีส่วนใหญ่ก็คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของท่าน เราเข้าใจถึงความทุกข์และความจำเป็นเร่งด่วนเป็นอย่างดี ขอให้ประชาชนวางใจว่าทุกคนจะทำงานอย่างเต็มที่ รวดเร็ว เพื่อให้ทุกข์ของท่านได้รับการคลายออกไปโดยเร็วที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าไปไหนตนต้องหนีบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ชื่อภราดร ปริศนานันทกุล คนอ่างทอง ไปด้วย เพราะอ่างทอง อยุธยา ก็เหมือนบ้านเดียวกัน พอมาก็จะเห็นปัญหา นายภราดรเป็นคนที่ตนได้มอบหมายให้กำกับดูแลสำหรับงบประมาณ ดูแลในเรื่องของภัยพิบัติ และงบช่วยเหลือประชาชน อะไรที่ค้างคาไว้ บางทีถ้าเขาไม่มาด้วยภาพก็ไม่ชัด เพราะตนจะไปอธิบายทุกเรื่องไม่ได้ ต้องให้คนที่ทำงานมาเห็นกับตาตัวเอง นี่คือการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ รวดเร็วทันใจ ไม่ให้เสียเวลาความช่วยเหลือต่างๆ จะต้องมาถึงประชาชนโดยเร็วอย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาระยะยาว ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการน้ำ จะเร่งรัดการดำเนินการการก่อสร้างคลองระบายน้ำบางบาล บางไทร ให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ให้สามารถระบายน้ำได้ 1,200 คิว/วินาที หากโครงการนี้แล้วเสร็จลุล่วงภายในปีหน้า จะทำให้น้ำไม่ท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ประชาชนก็จะคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วม
“ตนทราบดีว่าประชาชนไม่อยากได้ถุงยังชีพ เพราะการนำถุงยังชีพมาให้เนื่องจากประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้ แต่การนำถุงยังชีพมามอบให้คือการแสดงน้ำใจ แต่ที่ต้องทำมากกว่านั้นคือการแก้ไขปัญหาระยะยาว สำหรับโครงการที่จะเร่งขับเคลื่อน” นายอนุทิน กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนต้องการให้ทุกอย่างเกิดความสะดวกสบายแก่ประชาชน ทั้งระบบสาธารณูปโภค และการปรับปรุงระบบชลประทานฝั่งตะวันออกตอนล่าง เพื่อทำให้เกิดการระบายน้ำ ตั้งแต่ จ.ชัยนาท แม่น้ำป่าสัก ไหลไปลงอ่าวไทย เบื้องต้นได้ดูแผนแล้วคงใช้ระยะเวลาประมาณ 7 ปี และใช้งบประมาณกว่า 100,000 ล้านบาท ตนมองว่าการใช้งบประมาณ 100,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 7 ปี เฉลี่ยแล้วตกปีละหมื่นกว่าล้านบาท เทียบเท่ากับงบประมาณในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตกปีละหมื่นกว่าล้านบาทเช่นเดียวกัน โดยโครงการนี้จะทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงอ่าวไทย ไหลลงสู่ทะเล เอาความขมขื่นไปลงทะเลไปเลย “ให้มันไหลลง ไหลลง ไหลลง ไหลลงทะเล” และประชาชนก็จะไม่มีอุปสรรคในการดำรงชีวิตอีกต่อไป
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ขอให้รัฐบาลเร่งรัดสนับสนุนให้มีการขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาใน จ.ชัยนาท แม่น้ำท่าจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ และรัฐบาลจะถือโอกาสนี้ในการเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะคนเสนอและคนสนองคือพวกเดียวกันหมด บางแห่งต้องไปพึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ถึงแม้ว่าจะอยู่กันคนละพรรค แต่เปรียบเสมือนเป็นเพื่อนนักเรียนกันมาก่อน และ ร.อ.ธรรมนัส ก็มีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือกล้าตัดสินใจ เมื่อคนกล้าตัดสินใจทุกคนมาทำงานร่วมกันก็จะเกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน เรามีเวลาทำงานตรงนี้ไม่นาน วางแผนให้ดี รอบหน้าประชาชนก็เลือกตนกลับเข้ามาทำงานต่อ ไม่ต้องจบต้องสิ้น เราต้องมาทำงาน หากทำไม่ได้ไม่ต้องเลือก ทำงานไม่ได้อย่าริมาเป็นผู้แทนฯ อย่าริมาเป็นรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา สิ่งที่ประชาชนต้องการวันนี้คือความกล้าตัดสินใจ ที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง คนไหนทำงานให้กับพี่น้องมากกว่าก็เลือกคนนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อนายอนุทินกล่าวถึงตรงนี้ มีประชาชนตะโกนขึ้นมารอบหน้าก็จะเลือก สส.เต้ จากพรรคประชาชน นายอนุทิน จึงตอบกลับว่า “ดีแล้ว เลือกเต้ แล้วให้เต้มาเลือกหนู”
นายอนุทิน ย้ำว่า วันนี้พวกเราทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ เป็นทีมเดียวกัน บอกไว้สิ่งที่บอกไว้วันนี้ก็จะเกิดขึ้น ขออย่างเดียวขอให้ประชาชนมั่นใจและให้โอกาสได้ทำงาน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังถนนหน้าที่ทำการกำนัน ต.บางชะนี ดูความเสียหายจากน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน และลงเรือบริเวณถนนหน้าที่ทำการกำนันตำบลบางชะนี เพื่อไปสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือประชาชนที่บ้านน้ำท่วม.-314-สำนักข่าวไทย