อสมท 16 มิ.ย.- ยอดผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ทั่วโลกพุ่งเกินกว่า 8 ล้านคนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 440,000 คน ขณะที่ภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียนยังมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงลุกลามไม่หยุด ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มเกินกว่า 8,110,000 คนไปแล้ว และมีผู้เสียชีวิตราว 439,000 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในสหรัฐ และยุโรป เวลานี้สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 2,180,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 118,000 คน อย่างไรก็ดี สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 400 คนติดต่อกันเป็นวันที่สองแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นมา
ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียนยังคงวิกฤติ เวลานี้ยังคงเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อในภูมิภาคอยู่ที่ราว 1,700,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกินกว่า 80,000 คน โดยบราซิลสถานการณ์รุนแรงที่สุดมีผู้ติดเชื้อกว่า 890,000 คน และเสียชีวิตกว่า 44,000 คน มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การที่สหรัฐพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากก็เป็นเพราะสหรัฐมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อที่ก้าวหน้าไปมาก โดยมีการตรวจที่มากกว่าและดีกว่าประเทศใดๆ ในโลก หากสหรัฐยุติการตรวจหาผู้ติดเชื้อตัวเลขผู้ติดเชื้อก็จะลดลง
ขณะเดียวกัน สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ ได้เพิกถอนการใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินและยาคลอโรควิน ซึ่งเป็นยารักษามาลาเรียที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่ได้ผลในการรักษาและยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์เคยกินยาไฮดร็อกซีคลอโรควินอยู่หลายวัน หลังพบเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวติดเชื้อเพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ทั้งๆ ที่แพทย์ไม่แนะนำให้กินก็ตาม.-สำนักข่าวไทย