กทม. 10 มิ.ย. – ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเป็นหนึ่งในหลายกิจการที่คาดว่าจะได้รับการผ่อนปรนระยะที่ 4 หลังปิดไปนานเกือบ 3 เดือน จึงเริ่มเตรียมพร้อมมาตรการด้านสุขอนามัยตั้งแต่การคัดกรอง จนถึงการเยี่ยมญาติแบบ New Normal ในช่วงแรกจะยังไม่ให้บริการดูแลแบบรายวัน จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยแล้ว
หุ่นยนต์ดินสอขนาดเล็กถูกนำมาติดตั้งบริเวณประตูทางเข้าของศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง บีอาร์ซี ย่านเจริญนคร เพื่อใช้วัดอุณหภูมิ แทนเจ้าหน้าที่คัดกรอง ช่วยลดความเสี่ยงช่วงโควิด-19
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งนี้ต้องปิดบริการรับดูแลผู้สูงอายุแบบรายวัน และคนไข้นอก ของแผนกกายภาพตั้งแต่มีนาคม รวมถึงงดเยี่ยมผู้สูงอายุ 60 คน ที่รักษาระยะยาวทันที ทำให้ตลอดเกือบ 3 เดือน ผู้สูงอายุต้องอยู่แต่ภายในศูนย์ แม้แต่พบแพทย์ก็ต้องเปลี่ยนไปทำผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ ส่วนครอบครัวจะใช้วิธีคุยผ่านวิดีโอคอล แต่ก็ยังไม่ช่วยให้พวกเขาคลายเหงาและหายคิดถึง เหมือนกับการเจอตัวจริงและได้เห็นหน้า
ญาติผู้สูงอายุบางคนจึงเลือกอยู่ดูแลผู้ป่วยตลอดเวลาที่ศูนย์ปิด และหากิจกรรมให้ทำขณะที่ไม่ได้เจอคนอื่นในครอบครัวเหมือนเดิม
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มดีขึ้น ที่ศูนย์แห่งนี้กลับมาเปิดให้ญาติเยี่ยมผู้สูงอายุได้แล้ว ภายใต้ตามมาตรการด้านสุขอนามัย กำหนดให้เยี่ยมวันละ 3 รอบ รอบละ 30 นาที และยังดัดแปลงสถานที่เยี่ยมญาติใหม่ทั้งหมด นำแผงพลาสติกใสมากั้นระหว่างผู้สูงอายุ และครอบครัว ป้องกันการสัมผัสและละอองฝอย
ผอ.ศูนย์ ระบุว่า แม้จะมีมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มงวด แต่การผ่อนปรนระยะที่ 4 ซึ่งคาดว่าจะอนุญาตให้สถานดูแลผู้สูงอายุกลับมาเปิดให้บริการดูแลแบบรายวัน เช้าไปเย็นกลับได้ในกลางเดือนนี้ แต่ที่นี่จะยังปิดรับดูแลผู้สูงอายุแบบรายวันต่ออีกอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่พบผู้ติดเชื้อในไทยแล้ว
เกือบ 3 เดือนที่บริการดูแลผู้สูงอายุแบบรายวันต้องปิดตามคำสั่งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผู้ประกอบยอมรับว่ารายได้ลดลงกว่า 30% หากกลับมาเปิดหลังได้รับการผ่อนปรน จึงต้องให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัย ตั้งแต่การคัดกรอง และการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มเสี่ยงและเปราะบางที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย. – สำนักข่าวไทย