fbpx

ผลชันสูตร “น้องชมพู่” ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย

มุกดาหาร 16 พ.ค.- ตำรวจชุดสืบสวนคดี “น้องชมพู่” ยังอยู่ในพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดี แม้ผลผ่าชันสูตรจะไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย พร้อมระบุว่าเป็นไปได้ทั้งเดินพลัดหลงไปเองและมีคนพาไป


พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวไทยว่า  เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 พ.ค.) แพทย์โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี รายงานผลการผ่าชันสูตร ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ “น้องชมพู่” วัย 3 ขวบ ที่พบนอนเปลือยกายเสียชีวิตกลางป่าภูพานน้อย อุทยานแห่งชาติภูผายล พื้นที่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งพบศพเมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 พ.ค.ว่า ไม่พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศและการทำร้ายร่างกายใดๆ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 วัน

สอดคล้องกับการตรวจสอบในที่เกิดเหตุที่ไม่ปรากฏร่องรอยของบุคคลอื่น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต โรงพยาบาลดงหลวง ได้เปิดเผยมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเกิดจากร่างกายขาดน้ำ 


อย่างไรก็ตาม ตำรวจชุดสืบสวนยังไม่ถอนกำลังเพราะยังเหลือประเด็นที่ต้องคลี่คลายต่อ คือ “น้องชมพู่” เดินพลัดหลงไปเอง หรือมีคนพาไป ขณะนี้ยังเป็นไปได้ทั้ง 2 สาเหตุ และถ้ามีคนพาไปสามารถเอาผิดฐาน “พรากผู้เยาว์” และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตำรวจได้ทยอยนำตัวผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว แต่ยังไม่พบความผิดปกติ

สำหรับกรณี “น้องชมพู่” พบศพในสภาพเปลือยกายบนลานหินและรอยขีดข่วนตามร่างกาย ในป่าเทือกเขาภูพาน ห่างจากหมู่บ้านกกกอก ซึ่งเป็นบ้านพักประมาณ 3 กิโลเมตร หายไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พฤษภาคม ขณะนั้นพ่อแม่ของ “น้องชมพู” ได้ไปทำไร่ และปล่อยให้อยู่กับพี่สาววัย 13 ปี แต่คลาดสายตาได้ไม่นานจึงหายตัวไป ก่อนที่มีเบาะแสจากชาวบ้านที่ขึ้นไปหาของป่าและพบศพเมื่อช่วงค่ำในวันที่ 14 พฤษภาคม 

ด้านนางสมควร หลาบโพธิ์ อายุ 64 ปี ยายของผู้ตาย ยืนยันว่า ในครอบครัวผู้ตายไม่มีปัญหากับคนในหมู่บ้าน ไม่เคยขัดแย้งกับใคร เพราะที่ผ่านมาทำอาชีพการเกษตรในหมู่บ้านไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่หวังดีกับหลาน และคิดกระทำไม่ดีมากกว่า อยากให้ตำรวจติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ชาวบ้านยังหวาดผวาถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้