ช่วยเด็ก 5 ขวบ ถูกพี่เลี้ยงโหดทำร้ายอาการสาหัส

พี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – สุดโหด! พี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายเด็ก 5 ขวบ อาการสาหัส ส่วนเด็กอายุ 6 เดือน และ 7 เดือน ถูกทิ้งไม่ได้รับการดูแล


ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (4 พ.ย.) อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.ประชาชื่น ให้ช่วยตรวจสอบกรณีมีเด็กถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ที่ชุมชนประชาร่วมใจ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังอุ้มเด็กที่ได้รับบาดเจ็บออกมาขอความเหลือ กู้ภัยจึงปฐมพยาบาล พร้อมนำตัวเด็ก อายุ 6 เดือน 7 เดือน และ 5 ขวบ รวม 3 คน ไปที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น


อาสาร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ขณะเข้าไปช่วยเหลือเด็กเจอสภาพสุดเวทนา อย่างเด็กคนโต อายุ 5 ขวบ บริเวณหลังมีรอยถูกตีจนหลังแตก ส่วนบริเวณหัวไหล่ซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ ไหล่ขวามีลักษณะทรุด นอกจากนี้ดวงตามีรอยฟกช้ำ และคางมีรอยเย็บจากการโดนทำร้ายจากครั้งก่อนหน้านี้ ส่วนเด็กอีก 2 คน อายุ 6 เดือน และ 7 เดือน พบว่าพี่เลี้ยงไม่ได้ดูแล วางทิ้งไว้ และออกไปเที่ยว

สอบถามป้ามะลิ เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า พี่เลี้ยงคนนี้อายุประมาณ 30 ปี อาศัยอยู่กับลูกของตัวเอง 2 คน โดยเด็กคนโตมีแม่มาฝากเลี้ยงไว้ ส่วนเด็กคนที่ 2 แม่ก็มาฝากเลี้ยงเอาไว้เช่นกัน หลังหนีไปเมืองนอก ส่วนคนที่ 3 แม่ของเด็กนำมาฝากเลี้ยงไว้เหมือนกัน

ก่อนหน้านี้เห็นพฤติกรรมของพี่เลี้ยงแปลกๆ คือมีการนำเอาเด็ก 2 คน อายุ 6 เดือน และ 7 เดือน มากางมุ้งนอนริมคลอง พบอุจจาระ ปัสสาวะเต็มไปหมด พอไปดูที่บ้านพบไม่มีใครอยู่ เลยเอาเด็กมาดูแลก่อน ส่วนพฤติกรรมของพี่เลี้ยงมักได้ยินเสียงเด็กโดนตีประจำ จนเด็กร้องเสียงดังสนั่น พอไปดูก็พบตาเขียว คางแตก แขนงอ


ด้านแม่ของเด็ก 6 เดือน เมื่อรู้ข่าวรีบมารับตัวลูก พบน้องมีอาการหัวโน ปูดบวม ก่อนเผยว่าตนเองและสามีจำเป็นนำลูกไปฝากเลี้ยงเป็นรายเดือน พอวันหยุดจะไปรับน้องกลับมา ทุกครั้งที่รับน้องกลับจะพบรอยเล็บข่วนตามตัวและใบหน้า ซึ่งพี่เลี้ยงอ้างว่าเกิดจากเล็บน้อง พอทราบข่าวว่าพี่เลี้ยงมีพฤติกรรมเช่นนี้ยอมรับว่าตกใจมาก หลังจากนี้ต้องพาลูกไปตรวจร่างกาย

เบื้องต้นทราบว่าพี่เลี้ยงชื่อเล่นว่า “บุ้ง” เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.ประชาชื่นแล้ว ขณะนี้อยุ่ระหว่างสอบปากคำ ส่วนเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่บาดเจ็บสาหัส แพทย์ให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนอีก 2 คน แพทย์ให้ผู้ปกครองนำกลับบ้าน พร้อมเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัวกินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง