วุฒิสภาโอนเงินงบประมาณปี 63 คืนรัฐ 93.3 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 22 เม.ย.- “คำนูญ” เผยวุฒิสภามอบเงิน 10 ล้าน ให้มูลนิธิชัยพัฒนาสู้โควิด-19  พร้อมโอนเงินงบประมาณปี 63 คืนรัฐ 93.3 ล้านบาทช่วยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19


นายคํานูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิ) แถลงผลการประชุมที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ กิจการวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็น การมอบเงินของสมาชิกวุฒิสภา เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เบื้องต้นที่ประชุมเห็นควรมอบเงินจำนวน 10 ล้านบาท ให้แก่ กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด – 19 (และโรคระบาดต่าง ๆ ) มูลนิธิชัยพัฒนา และจะตั้งคณะทํางานขึ้นมาพิจารณาแนวทางจัดการเงินที่ได้รับบริจาคในส่วนที่นอกเหนือจากจํานวนข้างต้น ว่าสมควรมอบให้แก่หน่วยงานใดเป็นการเพิ่มเติม หรืออาจพิจารณาให้จัดทําโครงการขอวุฒิสภาเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชนในโอกาสถัดไป

โฆษกวิปวุฒิฯ  กล่าวว่า สมาชิกวุฒิสภาห่วงใยถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจึงได้ร่วมแรงร่วมใจบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน อาทิ มอบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ , เจลแอลกอฮอล์ , หน้ากากอนามัย , อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (face shield) ตลอดจนเครื่องอุปโภค – บริโภคแก่พี่น้องประชาชน ส่งเสริมกลุ่มแม่บ้านในการผลิตหน้ากากอนามัยจากผ้าไทย มอบครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลในจังหวัดต่าง ๆ นอกจากส.ว.ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ก็ยังให้ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองและแนวทางการลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แก่ประชาชนผ่านทางสื่อมวลชนและทางโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง


นายคำนูณ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่เสนอร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เพื่อนำไปช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้แจ้งโอนเงินคืน จำนวน 93.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 25 ของวงเงินคงเหลือซึ่งคือจำนวน 360 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้ คืนจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประชุมทวิภาคีและเยือนต่างประเทศของกรรมาธิการ 67.5 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประชุมนานาชาติไปเยือนและรับของแขกต่างประเทศ จำนวน 24.8 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนข้าราชการกับต่างประเทศ 1 ล้านบาท

โฆษกวิปวุฒิฯ กล่าวถึงการเตรียมการประชุมวุฒิสภาเมื่อมีการตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา สมัยประชุมสามัญ ประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. ๒๕๖๓ ว่า ต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับการประชุม วุฒิสภา และการประชุมคณะกรรมาธิการ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ทำความสะอาดห้องประชุมและอุปกรณ์ต่าง ๆ จัดผังที่นั่งเว้นระยะห่างตามมาตรการSocial Distancing จัดตรวจวัดอุณหภูมิ แจกหน้ากาก อนามัย และจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง