จับแล้วหัวหน้าแก๊ง เสธ.ทหาร อ้างชื่อมูลนิธิชัยพัฒนาหลอกลงทุน

21 ธ.ค. – หนีไม่รอด จับได้แล้วหัวหน้าแก๊ง เสธ.ทหาร อ้างชื่อ “มูลนิธิชัยพัฒนา” หลอกลงทุนหลายโครงการ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง แต่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.), เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายกิตติศักดิ์ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2484/2566 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง และฉ้อโกงประชาชน” โดยจับกุมจับกุมได้ที่ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ได้เปิดปฏิบัติการ “รวบแก๊งอ้างตัวเป็น “เสธ.ทหาร” แอบอ้าง “มูลนิธิชัยพัฒนา” ตุ๋นเงินชาวบ้าน ทำการหลอกลงทุนโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาฯ จัดทำโครงการแก้มลิง ในพื้นที่ภาคอีสาน จำนวน 90 โครงการ เพื่อหลอกลวงเงินจากผู้รับเหมารายย่อยและชาวบ้าน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1.5 ล้านบาท


จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พบผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 10 ราย มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มนายหน้าผู้ชักชวน จำนวน 5 ราย 2.กลุ่มทำหน้าที่เป็นบริษัทหน้าม้า อีกจำนวน 5 ราย นำกำลังตรวจค้นใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้จำนวน 7 ราย เหลือเพียงนายกิตติศักดิ์ฯ และผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่มบริษัทหน้าม้าอีกราย โดยนายกิตติศักดิ์นั้นถือว่า เป็นตัวการสำคัญที่สุดในคดี ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นผู้วางแผนหลอกลวง สร้างความน่าเชื่อถือ โดยแอบอ้างโครงการในพระราชดำริ เพื่อหลอกลวงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ อีกทั้ง จากปฏิบัติการดังกล่าวที่ผ่านมา นายกิตติศักดิ์ ไหวตัวทัน และสามารถหลบหนีการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางไปได้

พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบสวนติดตามตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยด่วน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการการสืบสวนจนทราบว่า นายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง จึงได้วางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.3 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย จ.ลำปาง นำกำลังลงพื้นที่จนสามารถจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้ บริเวณกลางทุ่งนาใกล้กับโรงงานน้ำดื่ม ม.3 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือที่ยังไม่ถูกจับกุมอยู่ในระหว่างเร่งล่าติดตามตัวต่อไป จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา. -413-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย