นครสวรรค์ 13 ม.ค. – มีตัวอย่างของกลุ่มเกษตรกรที่สามารถสร้างรายได้จากการทำเกษตร แม้ว่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง โดยมีการวางแผนปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง
เกษตรกรจะไถดินและหยอดเมล็ดพันธุ์หลังเกี่ยวข้าวนาปี เพื่อให้เมล็ดถั่วเขียวอาศัยน้ำในดินงอกเติบโตและออกฝัก ประมาณ 70 วันก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้
ปี 2558-2559 ชาวบ้านได้รวมกันทำเกษตรแปลงใหญ่ ปลูกข้าวทั้งปี โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรอำเภอและจังหวัด ทว่าช่วงหลังการทำนาปรังประสบปัญหาน้ำแล้ง จึงได้ร่วมกันปรับเปลี่ยนเพื่อหาทางรอด โดยวางแผนปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง ทั้งถั่วเขียวผิวมัน ข้าวโพ้ด ปอเทือง และพืชผักชนิดต่างๆ แรกๆ มีเกษตรกรร่วมไม่มาก แต่ 2-3 ปีมานี้ เกษตรกรให้ความสนใจปลูกพืชหนีแล้งเป็นรายได้เสริมมากขึ้น โดยเฉพาะถั่วเขียวผิวมัน ซึ่งปีนี้ราคาดีกิโลกรัมละ 26 บาท คุ้มค่ากว่ากว่าทำนาปรัง
ข้อมูลการทำนาปรังปี 2561/62 อ.บรรพตพิสัย มีพื้นที่ทำนาปรังกว่า 54,946 ไร่ และในปี 2562/63 มีพื้นที่นาปรังลดลง 20,288 ไร่ เนื่องจากบางส่วนเปลี่ยนไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน
วันนี้ตลาดยังมีความต้องการถั่วเขียวผิวมันในปริมาณมาก ราคารับซื้อในปีนี้ค่อนข้างสูง จึงนับเป็นความสำเร็จในการวางแผนปลูกพืชใช้น้ำน้อยให้สอดรับกับสถานการณ์น้ำแล้งในปีนี้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เสริมท่ามกลางวิกฤติภัยแล้ง. – สำนักข่าวไทย