ก.คมนาคม 31 ต.ค. – ปลัดคมนาคมสั่งปรับแผนพัฒนาตั๋วร่วมหลังหารือบีทีเอส พร้อมพัฒนาให้บัตรของผู้ให้บริการทุกรายใช้ข้ามระบบได้ หลังแผนพัฒนาบัตรเครดิตเป็นตั๋วโดยสาร หรือระบบ EMV คาดใช้เวลาอีก 18 เดือน
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาตั๋วโดยสารร่วม โดยมีตัวแทนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และตัวแทนผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าทั้งบีทีเอส แอร์พอร์ตลิงค์ และเอ็มอาร์ที ว่า จากการติดตามข้อมูลการพัฒนาตั๋วร่วม ที่ผ่านมา รฟม.ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมให้พัฒนาระบบตั๋วโดยสารเชื่อมโยงบัตรธุรกรรมการเงิน ทั้งบัตรเครดิต และอีมันนี่ต่าง ๆ จากการหารือวันนี้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบรายงานว่าจะต้องใช้เวลาอีก 18 เดือน หรือเดือนเมษายน 2564 จึงจะเสร็จ ซึ่งกระทรวงคมนาคมเห็นว่าใช้เวลานานเกินไป
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการเดินรถโดยเฉพาะบีทีเอสที่ให้บริการบัตรโดยสารแรบบิท หากทุกผู้ประกอบการจะดำเนินการให้บัตรโดยสารของตนที่มีอยู่ทั้งบัตรแรบบิทของบีทีเอส เอ็มอาร์ทีพลัสของ รฟม. บัตรแอร์พอร์ตลิงค์ รวมทั้งบัตรแมงมุมที่มีผู้ใช้บริการในระบบอยู่แล้ว โดยให้บัตรโดยสารทุกระบบสามารถนำไปใช้ข้ามระบบได้เลย ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ที่สำคัญผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบาย ดังนั้น จึงขอให้ผู้ประกอบการทุกรายกลับไปศึกษาว่าการดำเนินการลักษณะดังกล่าวจะใช้เวลาเท่าใด และจะต้องใช้เงินทุนมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้แนวทางดังกล่าวสามารถใช้ได้ 5-6 เดือนข้างหน้า เมื่อทุกรายได้ข้อสรุปก็ขอให้กลับมารายงานให้ที่ประชุมทราบภายใน 2 สัปดาห์ หากเปรียบเทียบระยะเวลาทำและเงินลงทุนไม่สูงมากเมื่อเทียบกับตั๋วร่วมระบบ EMV (Euro Mastercard Visa) ก็จะให้ที่ประชุมอนุมัติดำเนินการทันที บัตรอีเอ็มวีที่ รฟม.ดำเนินการจะดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย