ครม.มีมติเห็นชอบ 5 โครงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

ทำเนียบฯ 15 ต.ค.-ครม.มีมติเห็นชอบ 5 โครงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย งบประมาณ 3,120 ล้านบาท รองโฆษกฯ เผย นายกฯ และคณะ ลงพื้นที่ ครม.สัญจร จ.กาญจนบุรี 11-12 พ.ย.นี้


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ 5 โครงการเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย ภายใต้งบประมาณ 3,120 ล้านบาท เป็นงบกลาง เพื่อกรณีฉุกเฉิน และงบประมาณของกระทรวงฯ ประกอบด้วย การส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ วงเงิน 374 ล้านบาท , โครงการรักษาปริมาณและคุณภาพข้าว คาดการณ์ได้ 10 กิโลกรัมต่อไร่ โดยไม่เกิน 10 ไร่ต่อเกษตรกร 1 ราย วงเงิน 1,700 ล้านบาท , โครงการดูแลเกษตรกรประมง ด้วยการสนับสนุนพันธุ์ปลานิล 800 ตัวต่อเกษตรกร 1 ราย , โครงการสร้างอาชีพในแหล่งน้ำชุมชน ใน 129 อำเภอ เช่น กุ้งก้ามกราม วงเงิน 500 ล้านบาท และโครงการสุดท้าย ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีก 48,000 ครัวเรือน ภายใต้วงเงิน 4,950 ล้านบาท

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอโครงการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพารา ด้วยการประกันรายได้ให้เกษตรกรในระยะแรก ตุลาคม 2562-มีนาคม 2563 วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาทเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เพิ่มความมั่นคงในอาชีพแก่เกษตรกร 1.4 ล้านราย จำนวน 17 ล้านไร่ โดยแบ่งการประกันรายได้ ดังนี้ ยางแผ่นคุณภาพดี 60 บาท ต่อกิโลกรัม , น้ำยางสด ที่ DRC 100 (ปริมาณยางในน้ำ) ในราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม , ยางก้นถ้วยที่ DRC 50 ในราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย ขณะเดียวกันยังได้อนุมัติอีก 4 โครงการเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งโครงการขยายวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าที่ทำจากยางพารา ออกไปอีก 5 ปี ในวงเงินสินเชื่อ 25,000 ล้านบาท หวังให้ผู้ประกอบการขยายการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางให้มากขึ้น , ขยายเวลาสนับสนุนสินเชื่อให้ผู้ประกอบการยางพาราแห้งออกไปอีก 5 ปี วงเงิน 20,000 ล้านบาท , ขยายเวลาสนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้กับสหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนออกไปอีก 4 ปี วงเงิน 10,000 ล้านบาท และขยายเวลาการปรับปรุงและการใช้ยางแผ่นของหน่วยงานภาครัฐออกไปอีก 2 ปี


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้มีการประชุม ครม.นอกสถานที่ ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายนนี้ ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยวันที่ 11 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหทม พร้อมทั้งคณะรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ราชบุรี ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม ครม.ที่จังหวัดกาญจนบุรีในวันที่ 12 พฤศจิกายน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง