ปักกิ่ง 14 ต.ค.- เดือนกันยายนปีนี้ยอดส่งออกของจีนลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอต่อเนื่องและต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมขณะที่สงครามการค้ากับสหรัฐยังยืดเยื้อ
เดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นเดือนที่สหรัฐเริ่มเก็บภาษีร้อยละ 15 กับสินค้าจีนมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.8 ล้านล้านบาท) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน และจีนตอบโต้แบบเดียวกัน สำนักงานศุลกากรจีนเผยข้อมูลวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนกันยายนลดลงร้อยละ 3.2 จากปีก่อน มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลงร้อยละ 8.5 จากปีก่อน มากที่สุดนับตั้งแต่ลดลงติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และเกินดุลการค้าทั้งหมด 39,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท) หากแยกเฉพาะการค้ากับสหรัฐ จีนเกินดุลอยู่ 25,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 788,060 ล้านบาท) ส่วนช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยอดส่งออกของจีนไปสหรัฐลดลงร้อยละ 10.7 จากปีก่อนตามมูลค่าเป็นดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าลดลงร้อยละ 26.4 จากปีก่อนตามมูลค่าเป็นดอลลาร์สหรัฐ
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า เศรษฐกิจจีนไตรมาสสามของปีนี้จะชะลอการเติบโตลงอีก หลังจากไตรมาสสองเติบโตเกือบแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 30 ปีที่ร้อยละ 6.2 เสี่ยงทำให้เศรษฐกิจทั้งปีเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ที่ร้อยละ 6.0-6.5.-สำนักข่าวไทย