ก.คลังปลื้มวันหยุดยาวเงินสะพัดชิม ช้อป ใช้ต่างจังหวัด

กรุงเทพฯ 13 ต.ค.-  กระทรวงการคลังปลื้มวันหยุดยาวเงินสะพัดออกต่างจังหวัดใช้จ่ายจากโครงการชิม
ช้อป ใช้เตรียมเก็บข้อมูล ประเมินนำกลุ่มไม่ใช้สิทธิเงิน 1 พันบาท
ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ เข้าโครงการชิมช้อปใช้เฟส 2


นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ (สศค.) กล่าวว่า 
กระทรวงการคลังกำลังเก็บข้อมูลในช่วงวันหยุดยาวออกพรรษา หลังพบว่า
นักท่องเที่ยวออกไปใช้จ่ายในโครงการชิมช้อปใช้จำนวนมาก จึงทำให้ร้านอาหาร
ร้านค้ารายย่อยในต่างจังหวัด มียอดขายกระเตื้องมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
ร้านค้ารายย่อยทำยอดขายตั้งแต่ 5 พันบาท หลักหมื่นบาทต่อวัน อาทิ
แหล่งท่องเที่ยวบริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดเพชรบูรณ์  จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย
เพราะมีบรรยากาศเย็นสบาย 
รายจ่ายเพื่อท่องเที่ยวจากชิมช้อปใช้จึงเพิ่มขึ้น ทำให้เงินเริ่มสะพัดออกสู่ต่างจังหวัด  
กระทรวงการคลังจึงต้องการประเมินข้อมูลการใช้จ่ายครั้งนี้
เพื่อนำพิจารณาการดูแลผู้ไม่ได้ใช้สิทธิจ่ายเงินกระเป๋า 1 วงเงิน 1,000 บาท
ในช่วง 14 วันแรก และผู้ไม่สามารถยืนยันตัวตน เพื่อนำมาพิจารณา นำประชาชนกลุ่มนี้
เปิดทางให้ใช้สิทธิในโครงการชิมช้อปใช้ในเฟส 2 อย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ ยอดการใช้จ่ายชิมช้อปใช้ ณ. 11 ต.ค.62
มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 6,229 ล้านบาทแบ่งเป็นยอดจากกระเป๋า 1 จำนวน 6,163
ล้านบาท  ใช้จ่ายจากกระเป๋า 2 จำนวน 65.8
ล้านบาท และคาดว่ายอดเงินใช้จ่ายช่วงหยุดยาวจะเพิ่มสูงขึ้นมาก  หลังจากนี้เมื่อประชาชนเติมเงินใส่ในกระเป๋า 2
มากขึ้น เงินจะสะพัดออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น 
อยากย้ำเตือนประชาชนใช้เงิน 1,000 บาทของประชาชนในกระเป๋า 1
เมื่อใช้สิทธิครั้งแรกในจังหวัดลงทะเบียนไม่ตรงกับทะเบียนบ้านแล้ว
สามารถใช้เงินได้ยาวถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนในจังหวัดลงทะเบียน  จะไม่ถูกตัดสิทธิ์ในช่วง 14 วัน  ส่วนกระเป๋า 2 
เมื่อเติมเงินแล้วใช้สิทธิได้สิทธิแล้วจะได้รับเงินคืน 15%
ของเงินใช้จ่าย


นายสนาม สร้อยทรายน้อย  
เจ้าของร้านค้าของชำ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บอกว่า ช่วงวันหยุดยาวยอดขายสินค้าพุ่งสูงขึ้น
จากการใช้เงินชิมช้อปใช้ เพราะนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในแถบปากช่อง
จึงแวะมาซื้อของชำ สินค้าทั่วไปเพื่อสำหรับบริโภค ขนมทานเล่น
ร้านค้ารายย่อยบางรายไม่ทราบข่าวการลงทะเบียน
ถุงเงินนับว่าเสียดายโอกาสครั้งนี้  หรือว่าจะขยายช่องทางการซื้อสินค้า
แต่ให้สิทธิด้านอื่นจูงใจ 
จึงอยากให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการ ชิมช้อปใช้ เพราะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง