10 ต.ค.นี้ พม.พร้อมจ่ายเงินอุดหนุน เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

พม.9 ต.ค.-กรมกิจการเด็กฯแถลงความพร้อมโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด  ดีเดย์10 ต.ค.นี้ ให้กับผู้มีสิทธิที่มีข้อมูลครบถ้วนถูกต้องตามหลักเกณฑ์



นางเทพวัลย์  ภรณวลัย รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า จากเมื่อวันที่26 มี.ค.62 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาให้เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ตั้งแต่แรกเกิด–6 ปี และขยายฐานรายได้เฉลี่ยในครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปี โดยให้เด็กเดือนละ 600 บาท เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 เป็นต้นไป กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ดำเนินการปรับปรุงระเบียบของกรมฯ ว่าด้วยการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พ.ศ.2562 ให้สอดรับกับมติคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้รองรับกับปริมาณงานเพิ่มขึ้น 

นางภาวินี สุมลตรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กล่าวเพิ่มเติมว่า  การขยายหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการ มีมาเป็นลำดับ ได้แก่ 


1.ขยายเรื่องอายุเด็กจาก 3 ขวบ เพิ่มเป็น 6 ขวบสำหรับเด็กที่เกิดเริ่มตั้งแต่ 1ต.ค.2558 เป็นต้นไป 

2.ปรับเพิ่มวงเงินจาก 400 บาท เพิ่มเป็น 600 บาท ต่อเดือน  

3.ขยายสิทธิผู้ถือบัตรประกันสังคมร่วมโครงการได้ 

4.ปรับเพิ่มคุณสมบัติเกณฑ์รายได้เฉลี่ยในครัวเรือนไม่เกิน 36,000 บาท ต่อคน ต่อปี เป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี 

5.ขยายสิทธิการคุ้มครองผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็กให้ยื่นขอรับสิทธิ 

ไม่จำเป็นต้องเป็นบิดาหรือมารดาและสามารถลงทะเบียนได้ตามที่เด็กอาศัยอยู่จริง ไม่จำเป็นต้องใช้ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน  

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย คณะทำงานรัฐมนตรีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าการจ่าย เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีธนาคารของผู้มีสิทธิตามที่ได้ยื่นลงทะเบียนไว้ ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ เป็นการจ่ายเงินย้อนหลังให้ กับผู้มีสิทธิเป็นรายกรณี จนถึงเดือนต.ค.62 จำนวน 561,086 คน ในวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,674 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดี การจ่ายเงินในรอบเดือนต.ค.นี้ ยังมีผู้ไม่ได้รับเงินจำนวนหนึ่ง เนื่องจากต้องมาให้ข้อมูลสถานะของครัวเรือนเพิ่มเติม ที่ต้องปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในระบบฐานข้อมูลฯ เช่น วันเดือนปีเกิดไม่ถูกต้อง เลขบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง บัญชีธนาคารปิด บัญชีธนาคารผิดประเภท เป็นต้น  โดยผู้ลงทะเบียนต้องไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม และแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ณ สถานที่ที่ลงทะเบียน ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขข้อมูล และ การเบิกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิในรอบเดือนถัดไป

ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โทร.เบอร์ตรง 0 2651 6534, 0 2651 6920, 0 2651 6902  หรือ 0 2255 5850-7 ต่อ 121, 122, 123, 147, 152 หรือสายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง