กทม. 11 มี.ค.- กรมกิจการเด็กและเยาวชนระบุว่ามีเด็กได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเพิ่มขึ้น เบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้ผู้มีสิทธิ์กว่า 1.2 ล้านคนแล้ว
นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. เปิดเผยว่า ”นโยบายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ
โดยให้เงินอุดหนุนแก่เด็กแรกเกิดที่อยู่ในครอบครัวยากจนมีรายได้ไม่เกิน 100,000บาทต่อปี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ทำให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างมีคุณภาพและมีพัฒนาการที่เหมาะสมปัจจุบัน มีเด็กได้รับเงินอุดหนุนฯ เพิ่มขึ้น ผู้ที่ได้รับสิทธินับจากเด็กที่เกิดตั้งแต่ 1 ต.ค. 58
ล่าสุด วันที่ 1 มี.ค. 63 มีผู้มีสิทธิกว่า 1.4 ล้านคน จ่ายเงินอุดหนุนแล้วกว่า 1.2 ล้านคน และคาดว่าภายในปีนี้จะมีผู้มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนประมาณ 1.7 ล้านคน จากที่เริ่มโครงการในปี 2559 จัดสรรให้ 400 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 1 ปี จากฐานรายได้ครอบครัว 36,000 บาท ในปี 2560 ขยายจนถึงอายุ 3 ปี จาก 400 บาท เป็น 600 บาทต่อเดือน ปี 2562 ขยายเวลาเป็นตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี และขยายฐานรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
จากการติดตามประเมินผลของยูนิเซฟ และ TDRI พบว่า เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนมีภาวะโภชนาการที่ดีกว่าเดิม สามารถเข้าถึงบริการทางสังคมและทางการแพทย์มากกว่าเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุน เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในระยะยาว
อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ยังกล่าวว่าได้ประสานกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. เพื่อต่อยอดสนับสนุนให้เด็กกลุ่มนี้ได้เข้าศึกษาในสถานเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียน ในท้องถิ่นของพวกเขา ตามความเหมาะสมต่อไปด้วย.-สำนักข่าวไทย