พม.22 พ.ค.-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนิน การขอรับ “น้องอิ่ม” เด็กวัย 2 ขวบมาอยู่ในความดูแลแล้ว หลังเกิด “กรณีข่าวถูกแม่ทารุณ โพสต์รูปและวิดีโอป่วย ขายของขอรับบริจาค”
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ออกเอกสารข่าว “กรณีข่าวน้องอิ่มถูกแม่ทารุณ โพสต์รูปและวิดีโอลูกป่วย ขายของขอรับบริจาค” ว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้รับการประสานจากทีมแพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์ กรณีตรวจพบสารกัดกร่อน ผ่านทางช่องปากเด็กชายอิ่มบุญ อายุ 2 ปี ในระหว่างการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ณ ห้องพิเศษ (ICU) รพ.ธรรมศาสตร์ จึงดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับทีมสหวิชาชีพ โดยน้องอิ่มเข้ามารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ด้วยอาการแพ้และอาเจียนรุนแรง แม่เด็กสันนิษฐานว่าลูกแพ้ปลาหมึก แพทย์พบว่าหลอดอาหารและกระเพาะอาหารอักเสบรุนแรง มีแผลในปาก ลำไส้ และกระเพาะอาหาร สาเหตุจากการกลืนสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน แพทย์สงสัยพฤติกรรมแม่ โดยเชื่อมโยงกับน้องยิ้ม (พี่สาวของน้องอิ่ม ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ที่เข้ามารักษาเมื่อปีก่อน ซึ่งมีอาการเช่นเดียวกันกับน้องอิ่ม รวมถึงเรื่องขายของและรับบริจาคของแม่เด็กในเฟซบุ๊ก ดังกล่าวเข้าแจ้งความ
นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ หมอ พยาบาล รพ.ธรรมศาสตร์ นักสังคมสงเคราะห์ อัยการเด็กและเยาวชน อัยการสูงสุด อัยการจังหวัดธัญบุรีและตำรวจกองปราบ สภ.คลองหลวง ประชุมเมื่อวันที่ 14 พ.ค.63 ขอให้ศาลสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เนื่องจากมีความเห็นว่าเด็กอาจได้รับอันตราย หากอยู่ในความดูแลของมารดา โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 37 ประสานส่งตัวเด็กเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพ ในระบบครอบครัวอุปถัมป์ขององค์กรเอกชน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 33 (5) (6) และช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนแม่เด็ก กองปราบปรามออกหมายจับคดีฉ้อโกง และทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัส ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 ปัจจุบันถูกฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม และคัดค้านการประกันตัว
ทั้งนี้ ทีมสหวิชาชีพมีข้อสงสัยว่าเด็กทั้ง 2 คน (น้องอิ่มและน้องยิ้ม) อาจจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ข้อสันนิษฐาน ดังนี้
1.กรณีน้องยิ้ม กองปราบสืบทราบว่าในใบเกิดชื่อพ่อแม่เป็นบุคคลอื่น
2.กรณีน้องอิ่ม มีการแจ้งเกิดเป็นชื่อแม่แต่ไม่มีการฝากท้อง ชื่อพ่อไม่ปรากฎ ซึ่งหมอขอให้ตรวจ DNA แต่แม่ไม่ยินยอม จึงต้องขออำนาจศาลให้ตรวจ DNA ในกระบวนการ
3.แม่มีการเปลี่ยนชื่อถึง 4 ครั้ง .-สำนักข่าวไทย