มะนิลา 21 ก.ย.- รัฐบาลฟิลิปปินส์สั่งระงับการเจรจาสินเชื่อและความช่วยเหลือกับรัฐบาลประเทศที่ลงมติสนับสนุนญัตติสหประชาชาติหรือยูเอ็น เรื่องสอบสวนข้อกล่าวหาฟิลิปปินส์ละเมิดสิทธิมนุษยชนในการทำสงครามปราบปรามยาเสพติด
นายซัลวาดอร์ เมดิอัลเดีย เลขาธิการทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีบันทึกข้อความส่งถึงผู้บริหารหน่วยงานรัฐบาลทุกแห่งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เป็นบันทึกที่เขาลงนามตามคำสั่งของประธานาธิบดีให้ระงับการเจรจาเรื่องความช่วยเหลือด้านการพัฒนาทั้งหมดกับประเทศที่ลงเสียงสนับสนุนญัตติคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นที่นำเสนอโดยไอซ์แลนด์และผ่านความเห็นชอบเมื่อเดือนกรกฎาคม บันทึกนี้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานศุลกากรและเพิ่งถูกลบออกในวันนี้ เนื้อหาระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนได้รับคำสั่งให้ระงับการเจรจาและการลงนามข้อตกลงสินเชื่อและเงินช่วยเหลือทั้งหมดกับรัฐบาลประเทศที่ร่วมเสนอ และหรือลงเสียงสนับสนุนญัตติดังกล่าว รัฐบาลออกบันทึกนี้เพื่อแสดงความคัดค้านอย่างแข็งขันต่อมติของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็น
โฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตแถลงปฏิเสธในเวลาต่อมาว่า ประธานาธิบดีไม่ได้มีบันทึกข้อความเรื่องระงับสินเชื่อและการเจรจากับ 18 ประเทศที่ลงมติสนับสนุนญัตติของไอซ์แลนด์ เอเอฟพีเผยรายชื่อประเทศเหล่านี้ว่าประกอบด้วยอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย ออสเตรีย บาฮามาส อังกฤษ บัลแกเรีย โครเอเชีย สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฟิจิ ไอซ์แลนด์ อิตาลี เม็กซิโก เปรู สโลวาเกีย สเปน ยูเครน และอูรุกวัย อย่างไรก็ดี โฆษกเคยเผยหลังการลงมติเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ประธานาธิบดีกำลังพิจารณาอย่างจริงจังเรื่องตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไอซ์แลนด์ที่นำเสนอญัตตินี้
ดูเตอร์เตเปิดฉากสงครามกวาดล้างยาเสพติตดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อกลางปี 2559 ตำรวจเผยว่า สังหารผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดแล้วกว่า 5,500 คน แต่กลุ่มสิทธิเชื่อว่า ตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้สี่เท่า ก่อนหน้านี้อัยการอาชญากรรมสงครามของศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซี (ICC) ได้เปิดการสอบสวนเบื้องต้นเรื่องสงครามปราบปรามยาเสพติดของฟิลิปปินส์แล้ว และทำให้ฟิลิปปินส์ถอนตัวจากองค์กรแห่งนี้.-สำนักข่าวไทย