fbpx

รมว.ต่างประเทศจีนเยือนออสเตรเลียครั้งแรกในรอบ 7 ปี

แคนเบอร์รา 20 มี.ค.- นาย หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเดินทางเยือนออสเตรเลียในวันนี้ บ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มผ่อนคลายหลังจากมีความตึงเครียดมานานหลายปี รัฐบาลของนาย แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ใช้นโยบายปรับความสัมพันธ์ จึงได้เชิญนาย หวัง อี้ เดินทางไปเยือน กรุงแคนเบอร์รา  โดยวันนี้เขาได้พบหารือกับนาง เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้เปิดเผยว่า มีการหารือประเด็นต่างๆ เพื่อปรับความเข้าใจกัน  ทางออสเตรเลียได้แสดงความกังวลถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน ทั้งในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทิเบต และฮ่องกง ส่วนด้านการค้านั้น ออสเตรเลียกำลังพิจารณายกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดใช้กับสินค้าจีน ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างออสเตรเลียและจีนมีความตึงเครียดอย่างรุนแรงตั้งแต่ปี 2561 เมื่อรัฐบาลชุดที่แล้วของออสเตรเลีย ห้ามบริษัทหัวเว่ยของจีน จำหน่ายอุปกรณ์เครือข่าย 5G ในประเทศ  และยังตำหนิจีนเรื่องโควิด-19 เรียกร้องให้เปิดสืบสวนอย่างอิสระเกี่ยวกับต้นตอการแพร่ระบาด ขณะที่จีนก็ออกมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้าของออสเตรเลีย   การเดินทางเยือนออสเตรเลียของนาย หวังอี้ เป็นการเยือนของรัฐมนตรีต่างประเทศจีนครั้งแรกในรอบ 7 ปี  รัฐบาลออสเตรเลียยังเปิดเผยด้วยว่า ได้เชิญให้นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเยือนออสเตรเลียด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นช่วงเวลาใด.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเรียกร้องให้ปิดกั้นการเงิน-อาวุธของรัฐบาลทหารเมียนมา

ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าววันนี้ว่า ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องดำเนินการอย่างมีเป้าหมายในการจำกัดการเข้าถึงอาวุธ เชื้อเพลิงเครื่องบินและเงินตราต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อป้องกันมิให้กระทำการที่โหดร้ายกับประชาชนของตน

กสม. เตรียมส่งเรื่องตรวจสอบเอาผิด จนท. คดี “ป้าบัวผัน”

กสม. ชี้คดีฆาตกรรม “ป้าบัวผัน” ขัดต่อหลักสิทธิในกระบวนการยุติธรรม เตรียมส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเอาผิดเจ้าหน้าที่ และเยียวยาผู้เสียหาย

รัฐบาลทหารเมียนมาถูกกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม

องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) กล่าววันนี้ว่า กองทัพเมียนมาดูเหมือนว่าจะกระทำความผิดด้วยการลงมือโจมตีแบบไม่เลือกหน้าต่อพลเรือนและใช้ระเบิดลูกปราย ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามในปฎิบัติการตอบโต้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ

เผยกองทัพเมียนมายังคงกวาดล้างสังหารหมู่ต่อเนื่อง

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวในรายงานสถานการณ์ในเมียนมาฉบับล่าสุดในวันอังคารที่ระบุว่า กองทัพเมียนมา ยังคงเร่งใช้กำลังสังหารหมู่ โจมตีทางอากาศและใช้ปืนใหญ่โจมตีฝ่ายเห็นต่างกับรัฐบาลอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา

นายกฯ ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเมียนมา

นายกฯ ย้ำ ไทยยึดหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากการสู้รบชายแดนไทย-เมียนมา แต่จะไม่ยุ่งเกี่ยวความขัดแย้ง ทำงานภายใต้กรอบอาเซียน

ทูตเมียนมาวอนยูเอ็นเร่งกดดันรัฐบาลทหาร

ผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น เรียกร้องยูเอ็นดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหยุดยั้งความโหดร้ายทางทหารของรัฐบาลทหารเมียนมา

มองพฤติกรรม “กบหัวหน้างาน” อาจขัดกฎหมายแรงงาน

นักวิชาการด้านสื่อสารมองพฤติกรรม “กบหัวหน้างาน” ขาดมนุษยธรรมและละเมิดสิทธิมนุษยชน อาจขัดกฎหมายแรงงาน แนะผู้บริหาร เจ้านายยึดหลักใช้พระเดช-พระคุณบริหารงาน

เอ็นจีโอกล่าวหาบริษัทพลังงานหมุนเวียนจีนละเมิดใน 18 ประเทศ

จาการ์ตา 6 ก.ค.- องค์กรนอกภาครัฐกล่าวหาบริษัทจีนที่ลงทุนด้านธาตุที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมมากกว่า 100 ครั้งในหลายประเทศทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 2564 ศูนย์ทรัพยากรธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรนอกภาครัฐสากลออกรายงานกล่าวหาว่า บริษัทจีน 39 แห่งที่เกี่ยวข้องกับการหาธาตุเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานหมุนเวียน เช่น ทองแดง นิเกิล โคบอลต์ มีการละเมิดใน 18 ประเทศ รวมทั้งหมด 102 ครั้งระหว่างเดือนมกราคม 2564 ถึงเดือนธันวาคม 2565 ในจำนวนนี้ 27 ครั้งเกิดขึ้นในอินโดนีเซีย 16 ครั้งเกิดขึ้นในเปรู 12 ครั้งเกิดขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 11 ครั้งเกิดขึ้นในเมียนมา และ 7 ครั้งเกิดขึ้นในซิมบับเว ข้อมูลขององค์กรพบว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวางในการสำรวจ สกัด และแปรธาตุ ชุมชนท้องถิ่นคือผู้ที่ต้องแบกรับผลของการละเมิดเหล่านี้ รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้จีนและรัฐบาลที่ให้บริษัทเหล่านี้เข้าไปลงทุนด้านธาตุเร่งดำเนินการบรรเทาอันตรายที่เกิดขึ้นจากการแปรธาตุ เนื่องจากคาดหมายว่าโลกจะมีความต้องการใช้ธาตุเหล่านี้เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ภายในปี 2583 ตามความต้องการใช้พลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

เบลารุสอ้างถูกตะวันตกบีบให้ต้องมีนิวเคลียร์

มินสก์ 29 พ.ค.- เจ้าหน้าที่อาวุโสของเบลารุสระบุว่า ชาติตะวันตกทำให้เบลารุสไม่มีทางเลือก นอกจากต้องติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีของรัสเซีย และควรดำเนินการอย่างระมัดระวังที่จะไม่ล้ำเส้นในประเด็นสำคัญทางยุทธศาสตร์ สำนักข่าวเบลตา (BelTA) ของทางการเบลารุสรายงานอ้างคำกล่าวของนายพลอเล็กซานเดอร์ โวลโฟวิช เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งรัฐของเบลารุสที่ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของรัฐเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทุกวันนี้ทุกอย่างถูกทำลายพังหมด คำมั่นทุกอย่างหายไปตลอดกาล การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในดินแดนเบลารุสจึงเป็นก้าวหนึ่งในการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ หากนักการเมืองชาติตะวันตกยังมีเหตุผลหลงเหลืออยู่บ้าง ก็จะไม่ล้ำเส้นในเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะการใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีจะนำมาซึ่งผลที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก เบลารุสที่มีประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก เป็นผู้นำมาตั้งแต่ปี 2537 เป็นพันธมิตรของรัสเซียที่เหนียวแน่นที่สุดในบรรดาอดีตรัฐบริวารสหภาพโซเวียต และได้ให้รัสเซียใช้เป็นฐานในการรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 รัสเซียประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องจะติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในดินแดนเบลารุสเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเฉพาะในสมรภูมิ ขณะที่ผู้นำเบลารุสเผยในสัปดาห์เดียวกันว่า อาวุธดังกล่าวกำลังลำเลียงมาแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าจะติดตั้งที่ใด เบลารุสถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรมานานตั้งแต่ยังไม่มีสงครามในยูเครน โดยระบุว่าผู้นำเบลารุสกดขี่สิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีการประท้วงใหญ่ตามที่ฝ่ายค้านอ้างว่าเขาโกงการเลือกตั้งปี 2563 ทำให้ได้ดำรงตำแหน่งอีกสมัย.-สำนักข่าวไทย

เมียนมากล่าวโจมตีข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนยูเอ็น

รัฐบาลทหารเมียนมากล่าวโจมตีข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ว่าแสดงความเห็นไม่เหมาะสม หลังจากที่เขากล่าวว่า กองทัพเมียนมาอาจจะลงมือก่ออาชญากรรมสงครามในขณะที่ปราบปรามผู้ที่เห็นต่างและไม่ยอมรับการปกครองของรัฐบาลทหาร

ยูเอ็นต้องการให้จีนดำเนินการในประเด็นสิทธิมนุษยชน

โฟลเกอร์ เติร์ก (Volker Türk) ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าววานนี้เรียกร้องให้จีนลงมือดำเนินการเพื่อจัดการกับประเด็นที่น่ากังวลที่สุดในเรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียง

1 2 3 12
...