อุทัยธานี 4 ก.ย.- หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ชี้โครงการซาฟารีอยู่ขั้นตอนวิจัย ไม่ได้ทำในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์ป่าฯ และยังต้องผ่านอีกหลายกระบวนการ ย้ำจะทำการใดต้องคำนึงผลกระทบพื้นที่ป่ามรดกโลกและชุมชนเป็นสำคัญ
กรณีมีข่าวออกมาช่วงงานรำลึก 29 ปี สืบ นาคะเสถียรว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพและแรงจูงใจในการอนุรักษ์สัตว์ป่าในผืนป่าตะวันตก ตามแผนงานการท่องเที่ยวเชิงนิเวศสัตว์ป่าในรูปแบบซาฟารี โดยใช้พื้นที่ป่าสงวนบริเวณรอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งกับอ่างเก็บน้ำทับเสลา จ.อุทัยธานี บนเนื้อที่กว่า 30,000 ไร่ ปรากฏว่ามีหลายฝ่ายออกแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะเชื่อว่ากระทบต่อระบบนิเวศน์ป่าห้วยขาแข้ง
นายธานี วงนาค หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวมีการนำเสนอกันไปหลายมุม อาจเกิดความสับสนจนเข้าใจว่ามีการจัดทำโครงการซาฟารีในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ขอชี้แจงว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเป็นพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่าตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่า จึงมีเพียงการศึกษาธรรมชาติที่ประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษาธรรมชาติ ได้ตามความเหมาะสมเท่านั้น ส่วนประเด็นการจัดการท่องเที่ยวในรูปแบบของซาฟารีห้วยขาแข้งนั้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ได้ประสานกับนักวิจัยวนศาสตร์ทำการวิจัยพื้นที่ด้านนอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ เนื่องจากพื้นที่สำรววจโครงการนั้นอยู่รอยต่อของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่โดยตรง ซึ่งนักวิจัยวนศาสตร์ได้วิจัยในรูปแบบการท่องเที่ยวสัตว์ป่าเชิงอนุรักษ์ ภายใต้โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพและแรงจูงใจในการอนุรักษ์ โดยเป็นการวิจัยเพื่อหารูปแบบที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาและจัดการพื้นที่เชิงอนุรักษ์ที่อยู่ด้านนอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อันประกอบด้วย พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบางส่วน และบริเวณพื้นที่ริมเขื่อนทับเสลา และพื้นที่ดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยหรือเป็นแหล่งทำกินของชาวบ้าน
นายธานี กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ต้องใช้ข้อมูลเชิงวิชาการในการพัฒนาและจัดการถึงความเหมาะสมในพื้นที่ด้านนอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จะต้องไม่มีผลกระทบถึงป่าห้วยขาแข้ง และการวิจัยดังกล่าวอยู่ระหว่างการวิจัย ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งคณะนักวิจัยจะสรุปถึงความเหมาะสมอีกครั้งหลังวิจัยแล้ว พร้อมกับรูปแบบการพัฒนา จากนั้นจะต้องนำเสนอ เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชุมชนในพื้นที่ และคำนึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติของการเป็นมรดกโลกเป็นสำคัญ ทั้งนี้ นักวิจัยวนศาสตร์จะแถลงถึงโครงการในวันที่ 5 กันยายนนี้.-สำนักข่าวไทย