กรุงเทพฯ 29 ส.ค. – อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอุทยานฯ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ระหว่างส่งสายลับล่อซื้อในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดเคยต้องโทษคดีลักลอบตัดไม้มาแล้ว
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายพิชัย วัชรพงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ จ.สุรินทร์ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ชุดพญาเสือ เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการ 3 กองบังคับการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก พร้อมด้วยสารวัตรกำนัน ตลอดจนผู้นำชุมชนในพื้นที่ร่วมกันจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงข้าม โดยผู้ต้องหาเป็นชาวไทยได้ 3 คนซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นพ่อค้าไม้รายใหญ่ พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูปถากกลม 15 ท่อน ปริมาตรรวม 0.487 ลูกบาศก์เมตร และอุปกรณ์การกระทำผิดประกอบด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เลื่อยโซ่ยนต์ และอุปกรณ์การกระทำผิดอื่นๆ อีกหลายรายการ
คณะเจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า มีกลุ่มนายทุุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักลอบติดต่อกับพ่อค้าไม้ประเทศเพื่อนบ้าน มีการลักลอบค้าไม้พะยูงข้ามชาติ โดยทำเป็นกลุ่มขบวนการ มีการรวบรวมไม้ในท้องที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและนำขายให้กับพ่อค้าไม้ชาวกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ โดยสายลับได้สืบข่าวทราบว่า ชาวกัมพูชาคนหนึ่งซึ่งเคยต้องโทษจำคุกในคดีความผิดเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้ ท้องที่จังหวัดนครราชสีมา โดยรู้จักกับหนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งเป็นเถ้าแก่ผู้รวบรวมไม้ในท้องที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ชาวกัมพูชาต้องการซื้อไม้พะยูงและติดต่อประสานงานขบวนการค้าไม้ชาวไทย โดยชาวกัมพูชาเป็นผู้จัดหารถยนต์และคนในการขนไม้พะยูงจาก อ.ปากช่อง มาที่ป่าอ้อยในเขต อ.พนมดงรัก ท้องที่บ้านหนองจูบ หมู่ที่ 2 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยตกลงซื้อขายในราคากิโลกรัมละ 250 บาท จำนวน 15 ท่อน น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม เป็นเงิน 125,000 บาท
ก่อนหน้านี้เคยจะซื้อขายระหว่างกันแล้วครั้งหนึ่ง แต่เนื่องจากทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถเคลียร์เส้นทางไม้ลงได้ ชาวกัมพูชาจึงแจ้งว่าไม่สามารถรับซื้อไม้พะยูงดังกล่าวได้แล้ว สายลับจึงโทรยืนยันกับขบวนการค้าไม้ว่า สนใจจะเข้าไปดูไม้ โดยตกลงจะซื้อขายไม้พะยูงดังกล่าว จากนั้นในระหว่างตกลงซื้อขาย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวผู้กระทำความผิด พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด ดังนี้
- พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ฐานร่วมกันแปรรูปไม้ มีไม้แปรรูปหวงห้าม(ไม้พะยูง) ไว้ในครอบครอง ปริมาตรเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 70 ฐานร่วมกันซ่อนเร้น จำหน่าย หรือ ช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิด
- พ.ร.บ .สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53 ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
- พ.ร.บ. เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ฐานร่วมกันมี หรือ ผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต
- พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ฐานนำพาอาวุธปืนเข้าไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -512 – สำนักข่าวไทย