ปารีส 26 มี.ค.- ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ(ไออีเอ)แถลงวันนี้ว่า ปริมาณการใช้พลังงานทั่วโลกพุ่งขึ้นอีกร้อยละ 2.3 เมื่อปีที่แล้ว มากกว่าปริมาณการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งช่วยผลักให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกพุ่งขึ้นมากเป็นประวัติการณ์
รายงานด้านพลังงานโลกและสภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระบุว่า การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 70 มาสองปีแล้ว ส่วนก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 45 ในปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมด ขณะที่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่มีร้อยละ 31 ยังไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าที่พุ่งขึ้น ยิ่งผลักไปให้เกิดการใช้พลังงานถ่านหินมากขึ้นและเป็นตัวการก่อคาร์บอน การใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 33,000 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยมีระดับมลพิษจากคาร์บอนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ทั่วโลกต้องการพลังงานมากขึ้นเพราะหลายประเทศมุ่งเน้นการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก .-สำนักข่าวไทย