“พลังงาน” โต้เวทีวิพากษ์ปมค่าไฟแพง ยันรัฐไม่เอื้อทุนผูกขาด

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – กระทรวงพลังงาน แจงเวทีวิพากษ์ปมค่าไฟแพงคลาดเคลื่อน ย้ำรัฐไม่เอื้อทุนผูกขาด – กฟผ. ไม่ถูกบอนไซ แผน PDP 2024 ยังผลิตไฟเพิ่มเกือบ 20,000 MW


นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์จากเวทีเสวนา “สาเหตุไฟฟ้าแพงประชาชนเดือดร้อนเพราะใคร?” ว่ามีประเด็นสำคัญที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงขอชี้แจงดังนี้
1.ประเด็นค่าไฟแพงจากสัญญาที่รัฐเอื้อให้กับเอกชน ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีสัดส่วนการผลิตไฟที่น้อยลงนั้น นโยบายกระทรวงพลังงานในด้านหนึ่งคือ ส่งเสริมให้เอกชนมีบทบาทในการผลิตไฟฟ้า เพื่อเพิ่มการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้ประชาชนมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอในราคาที่เหมาะสม โดยโครงสร้างค่าไฟฟ้าในเรื่องสัดส่วนความเป็นเจ้าของใน กฟผ. ไม่ได้ส่งผลทำให้ค่าไฟสูงขึ้นหรือต่ำลง เพราะเงินลงทุนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นกับเทคโนโลยีในขณะนั้นๆ ที่อาจจัดหาโดย กฟผ. หรือเอกชน หากจัดหาโดย กฟผ. ก็จะส่งผ่านต้นทุนผ่านมูลค่าการลงทุนและค่าดำเนินการโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ถ้าจัดหาโดยเอกชนก็จะส่งผ่านต้นทุนผ่านค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment : AP) ขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงก็มีการควบคุมต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าตามลำดับ (Merit Order) เช่น เมื่อมีความต้องการไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจะเริ่มจากโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำที่สุดเป็นลำดับแรก ซึ่งจะอยู่ภายใต้กำกับดูแลโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้พลังงานทั้งอัตราค่าบริการและคุณภาพการบริการ ส่งเสริมการแข่งขัน และป้องกันการใช้อำนาจในทางมิชอบ ซึ่ง กกพ. มีระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตและผู้ประกอบกิจการพลังงานต้องไม่กระทำการหรือมีพฤติกรรมลักษณะผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการปฏิบัติอยู่แล้ว

2.ประเด็นคาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าสูงเกินความจำเป็น ทำให้ต้องพึ่งพิงเชื้อเพลิงฟอสซิล ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ที่ราคาผันผวนมากเกินไป อีกทั้งไม่บริหารต่อสัญญาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจากเขื่อนเก่าแต่กลับสร้างเขื่อนใหม่ เป็นตันเหตุหนึ่งของค่าไฟแพง กระทรวงพลังงานขอชี้แจงว่า การพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าใช้ค่าพยากรณ์จากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ระยะยาว ที่จัดทำโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งข้อวิจารณ์ที่ระบุว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันนั้น ในความเป็นจริงไม่สามารถพิจารณาจากสถานการณ์ระยะสั้นเพียงปีเดียวได้ อีกทั้งไทยยังมีประชากรแฝงจำนวนมาก การพยากรณ์จึงอาจมีความคลาดเคลื่อนมากกว่าหรือน้อยกว่า GDP ระยะยาว และทาง สศช. เองก็เห็นว่า ภาพรวมประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจยังไม่เปลี่ยนแปลง ค่าพยากรณ์ GDP ระยะยาวสามารถใช้คาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ได้ และที่ผ่านมาได้กำหนดระดับการสำรองไฟฟ้า (Reserve Margin) ที่เหมาะสมไม่ต่ำกว่า 15% ร่วมกับการใช้เกณฑ์ดัชนีโอกาสเกิดไฟฟ้าดับ (Loss of Load Expectation : LOLE) ไม่เกิน 1 วันต่อปี ซึ่งอาจไม่สอดคล้องสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ในแผน PDP ใหม่จึงจะใช้เกณฑ์ LOLE ไม่เกิน 0.7 วันต่อปี โดยคำนึงถึงความมั่นคงระบบไฟฟ้า และการประเมินมูลค่าความเสียหายเนื่องจากไฟฟ้าดับ


สำหรับ ประเด็นที่กล่าวถึงการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมากไปทำให้ต้องนำเข้า LNG ที่ราคาผันผวนนั้น ในการจัดทำร่างแผน PDP 2024 เน้นหลักการความมั่นคงระบบไฟฟ้า ต้นทุนค่าไฟที่เหมาะสมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยแผนจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดมากกว่า 50% จะนำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้ารูปแบบใหม่ๆ มาเป็นทางเลือกในแผน โดยจะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในโรงไฟฟ้าหลักลง และผสมไฮโดรเจนและก๊าซเพื่อช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) พร้อมกับใช้พลังงานหมุนเวียนทุกประเภทอย่างเต็มศักยภาพ เพิ่มทางเลือก เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก เทคโนโลยีแบตเตอร์รี่กักเก็บพลังงาน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นประเทศยังจำเป็นต้องพึ่งพาโรงไฟฟ้าหลักจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่ กฟผ. สามารถสั่งการเดินเครื่องเพื่อช่วยรักษาความมั่นคงของระบบเอาไว้ แต่ PDP ฉบับใหม่จะลดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติลง คาดว่าปลายแผนคือปี 2580 จะพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 41% จากปัจจุบันแผนเดิมพึ่งพาระดับ 53%

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่จะหมดอายุ ภาครัฐสามารถเจรจาได้หากเห็นว่าการต่ออายุสัญญาเป็นประโยชน์ ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใหม่เป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดหาเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน เป็นการกระจายเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า และการรับซื้อพลังงานสะอาดยังช่วยให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการประกาศความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ โดยที่แผนการรับซื้อต้องทำล่วงหน้าเพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อนต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงการอย่างน้อย 10 ปี ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านค่าไฟเนื่องจากราคารับซื้อไฟฟ้าจะคงที่ตลอดอายุสัญญา


3.ประเด็นที่ค่าไฟประเทศไทยแพงทำให้เกิดผลกระทบต่อเงินเฟ้อ เกิดการย้ายฐานการลงทุนไปที่อื่น หากพิจารณาค่าไฟเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทอุตสาหกรรมพบว่า อัตราค่าไฟฟ้าของไทยถือว่าอยู่ในระดับกลางของกลุ่มอาเซียน แต่ทั้งนี้การพิจารณาเปรียบเทียบอัตราค่าไฟฟ้าจะต้องดูบริบทของอุตสาหกรรมไฟฟ้าในประเทศนั้น ๆ ด้วย เช่น สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่ต่างกัน โดยบางประเทศมีการใช้ถ่านหินและไฟฟ้าพลังน้ำเยอะจึงทำให้อัตราค่าไฟถูก

ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทยค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยหลักมาจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติที่เป็นปัจจัยนอกเหนือการควบคุม แต่ภาครัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้บรรเทาภาระค่าไฟที่เกิดขึ้นทั้งการเร่งจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้าในช่วงที่ราคาปรับตัวลง กำกับติดตามการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยให้เป็นไปตามแผน จัดหาก๊าซจากตลาดจร (SPOT LNG) ที่มีราคาต่ำ และจัดทำสัญญาระยะยาว พร้อมกับเปลี่ยนวิธีการคำนวณ Pool Gas จากเดิมคิดจากปริมาณก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่มีราคาถูกเฉพาะส่วนที่ออกจากโรงแยกก๊าซมารวมกับปริมาณก๊าซจากแหล่งอื่นๆ ที่มีราคาสูงกว่า เปลี่ยนเป็นการนำปริมาณก๊าซจากอ่าวไทยทั้งหมดก่อนเข้าโรงแยกก๊าซมารวมกับก๊าซจากแหล่งอื่นก่อน แล้วจึงคำนวณราคา ทำให้ราคา Pool Gas ลดลง ช่วยลดต้นทุนค่าไฟลง นอกจากนี้ ยังจัดหาไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำเข้ามาเติม เช่น การเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากโรงแม่เมาะ การนำโรงไฟฟ้าแม่เมาะหน่วยที่ปลดระวางไปแล้วกลับมาผลิตใหม่ การรับซื้อไฟฟ้าระยะสั้นจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น เป็นต้น

“กระทรวงพลังงานยืนยันว่าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ โดยเอกชน ไม่ได้ทำให้หน่วยงานของรัฐคือ กฟผ. ถูกยึดโดยกลุ่มทุนพลังงาน ปัจจุบันรัฐยังคงถือหุ้นใน กฟผ. ทั้ง 100% และไม่มีเจตนาจะแปรรูปกิจการ กฟผ. ให้เป็นของเอกชน โดยโรงไฟฟ้าหรือระบบส่งที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ กฟผ. ก็ยังคงอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ กฟผ. และแผน PDP ฉบับใหม่ก็ไม่ได้ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ลดลงแต่อย่างใด นอกจากนั้น การคิดคำนวณค่าไฟ การจัดหาเชื้อเพลิง ก็ยังมีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ค่าไฟมีราคาที่เหมาะสม เป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายวีรพัฒน์ กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]