ลำปาง 14 ม.ค. – “สนธิรัตน์” ลงพื้นที่เยี่ยมชมกลุ่มเกษตรอินทรีย์ฮักน้ำจาง ดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้สู่ท้องถิ่น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่พบปะกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ฮักน้ำจาง บ้านนากว้าว ต.บ้านกิ่ว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เพื่อติดตามความก้าวหน้าการเพาะปลูกพืชผักอินทรีย์ของกลุ่ม พร้อมหาแนวทางให้การสนับสนุนและส่งเสริมเพิ่มเติม เพื่อช่วยสร้างความเข้มแข็งกลุ่มเกษตรกร เพิ่มรายได้ และส่งเสริมความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ให้คำแนะนำกับกลุ่มเกษตรกรว่าน่าจะช่วยกันพัฒนาให้พื้นที่เพาะปลูกพืชผักอินทรีย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้คนเข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตของเกษตรกร วิธีการทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร เมื่อมีคนมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ผลผลิตที่เพาะปลูกจำหน่ายได้มากขึ้น โดยกระทรวงฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปางให้ช่วยเข้ามาดูแลในเรื่องนี้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะช่วยหาตลาดรองรับผลผลิต ซึ่งจะประสานไปยังร้านค้าที่อยู่ในการส่งเสริม ทั้งร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ฟาร์มเอ้าท์เล็ต ตลาดต้องชม รวมถึงห้างสรรพสินค้าและภาคเอกชนอื่น ๆ ให้ช่วยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร เพื่อนำไปจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันทราบว่าสามารถส่งไปจำหน่ายในห้างบิ๊กซี และแม็คโคร สาขาลำปาง ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขาลำปาง และยังเห็นด้วยกับแนวทางของกลุ่มฮักน้ำจางที่รวมตัวกันและทำการตลาดด้วยตนเอง เช่น การนำไปขายที่ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง (ทุกวัน) หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาลำปาง (จันทร์, ศุกร์) ส่งจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลลำปาง และการจัดตลาดสีเขียว ณ แปลงผักส่วนกลางเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
พร้อมทั้งมีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรระหว่างกลุ่มเกษตรกรกลุ่มฮักน้ำจางกับผู้ประกอบการ 2 ราย คือ บริษัท ประชารัฐสามัคคีจังหวัดลำปาง จำกัด และบริษัท ลำปางเสรีกรุ๊ป จำกัด ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มเกษตรกรฯ มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรกลุ่มฮักน้ำจาง
สำหรับกลุ่มฮักน้ำจางก่อตั้งเมื่อปี 2552 เริ่มต้นมีกลุ่มเกษตรกรแค่ 5 ครัวเรือน จับมือกันมุ่งสู่วิถีเกษตรอินทรีย์ “ปลูกพืชผักท้องถิ่น กินตามฤดูกาล” ต่อมาขยายความร่วมมือไปยังคนในชุมชนกว่า 80 หลังคาเรือน และปัจจุบันยกระดับเป็น “ศูนย์เฮียนฮู้ โฮงเฮียนพอเพียง” มีบทบาทเป็นศูนย์เรียนรู้ถ่ายทอด ประสบการณ์ และนำเสนอตัวอย่างการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรมให้แก่ผู้ที่สนใจร่วมเดินบนเส้นทางสีเขียว โดยผลดีที่เกิดขึ้นในชุมชน คือ ครอบครัว ชุมชน มีผักที่ดีมีความปลอดภัยมีอาหารปลอดภัย ทำให้สุขภาพแข็งแรง ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีเครือข่ายชุมชน คนในชุมชนไม่ต้องออกไปรับจ้างทำงานต่างถิ่น มีการรวมกลุ่มการผลิต มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกันในชุมชน การรวมกลุ่มการจำหน่าย สร้างอำนาจต่อรองในการจำหน่าย ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจติดตามโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ณ ร้านปัญญาซุปเปอร์ค้าส่ง ในอำเภอเมืองลำปาง ได้พบกับเครือข่ายร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและประชาชนผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งสินค้าขายดี คือ สินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ผงซักฟอก ซีอิ๊ว น้ำมัน น้ำปลา และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นอกจากนี้ ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐนำสินค้าในชุมชน ได้แก่ ผัก ผลไม้ ไม้กวาด เครื่องจักรสาน ฯลฯ มาขายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐด้วย . – สำนักข่าวไทย