สธ.21 ก.ย.-สธ.เตือนเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ หลีกเลี่ยงนกพิราบและบริเวณที่นกอาศัยอยู่หรืออยู่ใกล้กรงนก ลดความเสี่ยงโรคคริปโตคอกโคสิสจากการติดเชื้อราในมูลนก
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มีฝนตก อากาศร้อนชื้น เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี อีกโรคหนึ่งที่น่าห่วงก็คือ โรคคริปโตคอกโคสิสจากการติดเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus Neoformans) ที่อยู่ในมูลนก โดยเฉพาะนกพิราบ ซึ่งมักอาศัยตามที่สาธารณะหรือมาเกาะอาศัย ทำรังอยู่บนหลังคา ฝ้าเพดานบ้าน และยังพบในมูลนกอื่นๆที่ประชาชนมักเลี้ยงไว้ เช่น นกหงส์หยก นกแก้ว นกกระตั้ว นกแขกเต้า นกเอี้ยง นกเขา ไก่ อีกด้วย
โดยเมื่อหายใจเอาสปอร์ราหรือเชื้อราในมูลนกที่ถูกพัดกระจายอยู่ในอากาศเข้าไป จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอดและสมอง มีอาการไข้ ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก มีปัญหาทางการมองเห็น มึนงง หากมีการติดเชื้อที่สมองจะมีอาการสับสน และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อง่าย คือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง คนที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ อาจมีอาการรุนแรงและรักษายากกว่าคนปกติ จึงขอให้ป้องกันตัวเอง โดยหลีกเลี่ยงนกพิราบและบริเวณที่นกอาศัยอยู่ หรืออยู่ใกล้กรงนกที่ไม่ได้ทำความสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงติดโรคนี้ และขอให้ป้องกันตัว โดยสวมผ้าปิดจมูกและปากเมื่อต้องทำความสะอาดอาคารเก่า บริเวณที่นกอาศัยอยู่และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง รวมทั้งไล่นกพิราบไม่ให้มาอาศัยอยู่ในบ้าน เช่น การกั้นด้วยตาข่าย การใช้เข็มขัดรัดสายไฟมัดที่ระเบียงที่นกชอบเกาะ กำจัดรังนก เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย