เมืองทองธานี 1 ส.ค. – พาณิชย์ตั้งเป้าดึงร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการร้านค้าใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระค่าสินค้า 2 แสนรายภายใน 3 เดือน มั่นใจช่วยชุบชีวิตโชห่วยและขับเคลื่อนฐานราก
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าโครงการใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านแอพพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ” เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งปัจจุบันมี 11.43 ล้านคน เพื่อเป็นทางเลือกและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือบัตร พร้อมทั้งช่วยสร้างรายได้ให้กับร้านโชห่วยและร้านค้ารายย่อยมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มร้านค้าอีก 200,000 ร้านค้า ภายใน 3 เดือน
สำหรับโครงการใช้มือถือรับชำระค่าสินค้านั้น ได้เปิดโอกาสให้กับร้านค้าเกือบทุกประเภท ทั้งร้านค้ารายย่อย ร้านโชห่วย แผงค้าในตลาดสด ทั้งแผงหมู แผงผัก แผงผลไม้ ร้านจาหน่ายอาหารปรุงสาเร็จ ร้านหนูณิชย์ ผู้ค้าในตลาดต้องชม ตลาดกลางสินค้าเกษตร ร้านจาหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน รถยนต์เร่ขายสินค้า เป็นต้น ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งขณะนี้ได้จัดส่งทีมงานลงพื้นที่เพื่อระดมรับสมัครร้านค้าทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการและล่าสุดมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการประมาณ 20,000 ราย มีเม็ดเงินหมุนเวียนในร้านค้า เฉลี่ยเดือนละ 4,000 ล้านบาท
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ประสานผู้ผลิตรายย่อย ผู้ผลิตสินค้าชุมชน ผู้ผลิตสินค้าเกษตร จากแต่ละภาคให้มีการเชื่อมโยงทั้งภายในและระหว่างภาคผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐให้สามารถแข่งขันได้และเป็นร้านค้ามืออาชีพ โดยที่ผ่านมามีการเชื่อมโยง สินค้าชุมชนผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแล้ว อาทิ กะปิ น้ำปลา ปลากรอบ ลำไย และสับปะรด ซึ่งกะปิจากจังหวัดระนองมียอดจำหน่ายกว่า 700,000 บาทภายในวันเดียว
นอกจากนี้ มีโครงการยกระดับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ทั้งในส่วนกลาง และในพื้นที่แต่ละจังหวัดจัดอบรมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยหลักสูตรการอบรมเบื้องต้น คือ เรื่องภาษี การบริหาร จัดการร้านค้า การปรับภาพลักษณ์ร้านค้า การจัดการสินค้าคงคลัง เทคนิคการขาย การส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย เป็นต้น เพื่อพัฒนาให้ร้านค้าเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตั้งเครื่องรูดบัตร EDC ให้กับร้านค้าไปแล้วประมาณ 38,000 ร้านค้า ซึ่งยังมีร้านค้าต้องการเข้าร่วมโครงการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องการให้มีร้านค้ากระจายอย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยยืนยันว่าแม้จะสามารถชำระสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือได้แล้ว แต่จะไม่มีการยกเลิกเครื่องรูดบัตร EDC โดยเตรียมยกระดับสู่ร้านค้าชุมชนโดยใช้เทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการ หรือโชห่วยไฮบริดในอนาคตขณะที่การค้าชายแดนยังปกติดีไม่ได้รับรายงานว่าสินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน แม้ประเทศเพื่อนบ้านจะประสบเหตุภัยพิบัติ . – สำนักข่าวไทย